• หน้าหลัก
  • ข้อมูลส่วนบุคคล
  • แจ้งเบาะแสการทุจริต
  • การจัดซื้อจัดจ้าง
  • ติดต่อเรา
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับเรา

    GLOBAL BEST PRACTICE IN POWER BUSINESS

    • ข้อมูลบริษัท
      • วิสัยทัศน์ และพันธกิจ
      • คุณค่าขององค์กร
    • เหตุการณ์สำคัญ
    • สัญลักษณ์
    • โครงสร้างการถือหุ้น
    • โครงสร้างการจัดการ
      • โครงสร้างองค์กร
      • คณะกรรมการบริษัท
      • คณะกรรมการตรวจสอบ
      • คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน
      • คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง
      • คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการและความยั่งยืน
      • คณะผู้บริหาร
    • บริษัทย่อย และบริษัทในเครือ
    • รางวัลแห่งความภูมิใจ
    • รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม
    วิสัยทัศน์ และพันธกิจ
    คณะกรรมการบริษัท
  • ธุรกิจของเรา

    GLOBAL BEST PRACTICE IN POWER BUSINESS

    • โครงสร้างกลุ่มธุรกิจ
    • โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม / โคเจนเนอเรชั่น / พลังความร้อน
    • โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน
    • ธุรกิจเกี่ยวเนื่องและอื่น ๆ
  • การพัฒนาที่ยั่งยืน

    GLOBAL BEST PRACTICE IN POWER BUSINESS

    • รายงาน
      • รายงานความยั่งยืน
      • Sustainability Performance Data
    • จีพีเอสซี กับการพัฒนาที่ยั่งยืน
      • เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
      • การประเมินประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน
      • โครงสร้างการบริหารจัดการความยั่งยืน
      • กรอบการบริหารจัดการความยั่งยืน
    • เศรษฐกิจ
      • การกำกับดูแล, การบริหารความเสี่ยง และการปฏิบัติตามกฎข้อบังคับ
      • การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน
      • วิวัฒนาการธุรกิจพลังงานแห่งอนาคต
      • ความมั่นคงด้านเสถียรภาพและความพร้อมของการดำเนินการผลิต
      • การสนับสนุนต่อสมาคม / องค์กรทางธุรกิจต่างๆ
      • ความโปร่งใสด้านภาษี
    • สิ่งแวดล้อม
      • การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม
      • พลังงานสะอาดสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
      • ความหลากหลายทางชีวภาพ
    • สังคม
      • ความรับผิดชอบต่อสังคม
      • พนักงานคือหัวใจขององค์กร
      • สุขภาวะและความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมการทำงาน
      • สิทธิมนุษยชน
      • การบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า
    • การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย
    • นโยบาย
    การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย
    Stakeholder Engagement
    รายงานความยั่งยืน
    SD Report
  • นักลงทุนสัมพันธ์

    GLOBAL BEST PRACTICE IN POWER BUSINESS

    • หน้าหลักนักลงทุนสัมพันธ์
    • ข้อมูลทางการเงิน
      • ข้อมูลสำคัญทางการเงิน
      • งบการเงิน
      • คำอธิบายและการวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ
      • อันดับความน่าเชื่อถือ
    • ข้อมูลราคาหลักทรัพย์
      • ราคาหลักทรัพย์
      • ราคาย้อนหลัง
      • เครื่องคำนวณการลงทุน
    • ข้อมูลสำหรับผู้ถือหุ้น
      • ข้อมูลพื้นฐาน
      • รายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่
      • การประชุมผู้ถือหุ้น
      • ดาวน์โหลดเอกสารเพิ่มทุน (RO)
      • โครงการผู้ถือหุ้นเยี่ยมชมกิจการ
      • นโยบายและการจ่ายเงินปันผล
      • ปฏิทินนักลงทุนสัมพันธ์
    • ข้อมูลหุ้นกู้
      • ข้อมูลหุ้นกู้
      • ข้อมูลหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 1/2563
      • ข้อมูลหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 1/2565
    • ห้องข่าว
      • ข่าวแจ้งตลาดหลักทรัพย์
      • ข่าวแจ้งสื่อมวลชน
      • ข่าวจากสื่อสิ่งพิมพ์
    • ปฏิทินนักลงทุนสัมพันธ์
    • เอกสารนำเสนอและภาพวิดีโอบริษัท
    • ข้อมูลนักวิเคราะห์
      • ติดต่อนักวิเคราะห์
      • บทวิเคราะห์หลักทรัพย์
    • เอกสารเผยแพร่
      • 56-1 One Report / รายงานประจำปี
      • แบบฟอร์ม 56-1
      • Factsheet
      • หนังสือชี้ชวนเสนอขายหลักทรัพย์
      • ดาวน์โหลดเอกสารนักลงทุนสัมพันธ์
    • สอบถามข้อมูลและติดต่อนักลงทุนสัมพันธ์
      • ติดต่อนักลงทุนสัมพันธ์
      • อีเมล์รับข่าวสาร
      • คำถามที่พบบ่อย
    ราคาหลักทรัพย์
    งบการเงิน
  • ข่าวและกิจกรรม

    GLOBAL BEST PRACTICE IN POWER BUSINESS

    • ข่าวสาร
      • ข่าวประชาสัมพันธ์
      • ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม
    • วีดิทัศน์
      • วีดิทัศน์บริษัท
      • วีดิทัศน์โครงการ
      • สกู๊ปข่าว
      • พลังงานน่ารู้
    • เล่าเรื่องพลังงาน
  • การกำกับดูแลกิจการที่ดี

    GLOBAL BEST PRACTICE IN POWER BUSINESS

    • การกำกับดูแลกิจการที่ดี และจรรยาบรรณธุรกิจ
    • การตรวจสอบภายใน
    • แจ้งเบาะแสการทุจริต
    • ติดต่อเลขานุการบริษัท
    • คู่มือแนวทางการบริหารจัดการแบบกลุ่ม
  • ร่วมงานกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • ข้อมูลส่วนบุคคล
Font
A+
A
Dark mode Light mode
Quick links
แจ้งเบาะแสการทุจริต การจัดซื้อจัดจ้าง
ภาษา :
  • TH
  • EN
Recommended Searches
  • Energy forecast
  • Careers
  • Annual Report
  • Energy Storage System
Quick links
แจ้งเบาะแสการทุจริต การจัดซื้อจัดจ้าง
  • A+
    Increase Font
  • A
    Regular Font
  • Dark mode Light mode
  • EN
ย้อนกลับ

Sustainability คืออะไร? ทำไมธุรกิจและสังคมยุคใหม่ต้องให้ความสำคัญ

07 ต.ค. 2568

ในยุคที่โลกเผชิญกับวิกฤตการณ์หลายด้าน ทั้งสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ทรัพยากรธรรมชาติที่ลดน้อยลง รวมถึงความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น แนวคิดเรื่อง Sustainability หรือ ความยั่งยืน จึงกลายเป็นหัวใจสำคัญที่ธุรกิจและสังคมยุคใหม่ไม่อาจมองข้ามได้อีกต่อไป เพราะความยั่งยืนไม่ได้หมายถึงแค่การรักษาสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่กับการพัฒนาสังคมอย่างเป็นธรรมและสมดุล บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจว่า “Sustainability คืออะไร?” และเหตุใดแนวคิดนี้จึงกลายเป็นหลักคิดสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรและสังคมในยุคปัจจุบันและอนาคต

Sustainability หรือ หลักของการพัฒนาอย่างยั่งยืน คืออะไร

Sustainability มาจากรากศัพท์คำว่า Sustain ซึ่งหมายถึง “การคงอยู่” หรือ “การรักษาไว้” เมื่อรวมกับแนวคิดเรื่องการพัฒนา (Development) จึงหมายถึงการพัฒนาที่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบด้านลบในระยะยาว หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ “การพัฒนาอย่างยั่งยืน”

Sustainability หรือความยั่งยืนจึงเป็นแนวคิดในการพัฒนาที่มุ่งเน้นการตอบสนองความต้องการของคนรุ่นปัจจุบันโดยไม่ทำลายศักยภาพของคนรุ่นหลังในการตอบสนองความต้องการของตนเองในอนาคต ซึ่งหลักของความยั่งยืนนี้ถูกนำมาใช้ทั้งในระดับบุคคล ธุรกิจ ไปจนถึงระดับประเทศ เพื่อสร้างสมดุลระหว่าง เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมเพื่อให้มนุษย์สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีคุณภาพ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยไม่ทำลายโอกาสของคนรุ่นหลังในการเข้าถึงทรัพยากรและความเป็นอยู่ที่ดี หลักการของความยั่งยืนถูกระบุไว้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1987 ในรายงานของสหประชาชาติ “Our Common Future” ว่า

“Sustainable development is development that meets the needs of the present without compromising the ability of future generations to meet their own needs.”

ความแตกต่างระหว่าง Sustainability และ CSR

ในยุคที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับจริยธรรม สิ่งแวดล้อม และความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น คำว่า CSR (Corporate Social Responsibility) และ Sustainability (ความยั่งยืน) จึงกลายเป็นคำที่ถูกพูดถึงบ่อยในแวดวงธุรกิจ แต่หลายคนยังเข้าใจว่าสองคำนี้คือสิ่งเดียวกัน ทั้งที่ในความจริงแล้ว CSR และ Sustainability มีแนวคิดและเป้าหมายที่แตกต่างกัน

แล้ว CSR คืออะไร? CSR คือ ความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร หมายถึงการที่ธุรกิจดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมหรือสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติมจากเป้าหมายหลักทางธุรกิจ เช่น การจัดกิจกรรมปลูกป่า การบริจาคสิ่งของให้โรงเรียน การสนับสนุนชุมชนในท้องถิ่น CSR มักเกิดขึ้นในรูปแบบ “กิจกรรมเฉพาะครั้ง” ที่มุ่งเน้นภาพลักษณ์และความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรกับสังคม

ส่วน Sustainability หรือการพัฒนาอย่างยั่งยืน คือการผสานแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจเข้าไว้ในทุกกระบวนการของธุรกิจ เพื่อให้กิจการสามารถเติบโตได้โดยไม่ทำลายทรัพยากรของโลกและไม่ละเลยความเป็นอยู่ของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในระยะยาว เช่น การออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ใช้ทรัพยากรน้อยลง การปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตเพื่อลดการปล่อยคาร์บอน การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ให้คุณค่ากับแรงงานและความหลากหลาย Sustainability ไม่ใช่กิจกรรมเสริม แต่คือ “หัวใจของกลยุทธ์องค์กร”

แม้ CSR และ Sustainability จะมีจุดร่วม คือการให้ความสำคัญกับผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม แต่ CSR คือกิจกรรมเสริม ในขณะที่ Sustainability คือแนวทางธุรกิจระยะยาว โดย CSR มักเน้นการให้กลับคืนแก่สังคมผ่านกิจกรรมเสริม เช่น การบริจาค หรือโครงการเพื่อชุมชน ส่วน Sustainability เป็นแนวทางที่ฝังอยู่ในกลยุทธ์หลักขององค์กร ครอบคลุมการออกแบบผลิตภัณฑ์ การดำเนินงาน และการจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ

หลักการสำคัญของ Sustainability

การพัฒนาอย่างยั่งยืนมี 3 เสาหลักที่สำคัญ

  • ด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Sustainability)

    เป็นหัวใจของความยั่งยืนในระยะยาว โดยเน้นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ลดผลกระทบจากกิจกรรมของมนุษย์ต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมระบบนิเวศให้สามารถฟื้นฟูตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง แนวทางนี้รวมถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การใช้พลังงานทางเลือกหรือพลังงานสะอาด การจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ และการดูแลรักษาความหลากหลายทางชีวภาพอย่างใส่ใจ เพราะหากสิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรมลง การพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมก็จะไม่สามารถดำรงอยู่ได้เช่นกัน

    การใช้พลังงานหมุนเวียน ลดขยะ การจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การปลูกต้นไม้ทดแทน การลดคาร์บอนฟุตพรินต์ และการใช้เทคโนโลยีสีเขียว

  • ด้านสังคม (Social Sustainability)

    ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิต ความเป็นธรรม และความเท่าเทียมของทุกคนในสังคม การพัฒนาที่ยั่งยืนในมิตินี้จะเน้นที่การส่งเสริมสิทธิมนุษยชน การสร้างความเสมอภาคทางเพศ เชื้อชาติ ศาสนา และกลุ่มทางสังคม รวมถึงการเข้าถึงโอกาสพื้นฐาน เช่น การศึกษา การบริการสาธารณสุข และความปลอดภัยในชีวิต การมีสังคมที่มีความมั่นคง ชุมชนที่เข้มแข็ง และประชาชนที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาจึงถือเป็นแกนหลักที่ทำให้เกิดความยั่งยืนทางสังคมอย่างแท้จริง การสร้างความเท่าเทียม สนับสนุนสิทธิมนุษยชน สวัสดิภาพแรงงาน และการมีส่วนร่วมของชุมชน

  • ด้านเศรษฐกิจ (Economic Sustainability)

    หมายถึงการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่ไม่เพียงแต่มุ่งเน้นการเติบโตของผลผลิตหรือรายได้เท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงความสามารถในการรักษาความมั่นคงของระบบเศรษฐกิจในระยะยาว การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ การบริหารจัดการอย่างมีจริยธรรม และการวางแผนการลงทุนที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมและไม่สร้างหนี้สินหรือภาระให้กับคนรุ่นต่อไปเป็นหัวใจสำคัญ ธุรกิจหรือประเทศที่ยั่งยืนในมิตินี้ต้องสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้โดยไม่ทำลายฐานทรัพยากรหรือสร้างความเหลื่อมล้ำเกินควร การดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล สร้างงาน สร้างมูลค่า และเติบโตอย่างมั่นคงโดยไม่เบียดเบียนทรัพยากรหรือสังคม

เมื่อพิจารณาโดยรวมจะเห็นได้ว่า ทั้งสามเสาหลักเป็นองค์ประกอบที่แยกจากกันไม่ได้ หากเน้นเพียงด้านใดด้านหนึ่งโดยละเลยอีกสองด้านอาจทำให้การพัฒนานั้นกลายเป็นเพียงความเจริญแบบชั่วคราว และอาจสร้างปัญหาในระยะยาวได้ การพัฒนาอย่างยั่งยืนจึงต้องเป็นการมองอย่างรอบด้านที่วางแผนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว คำนึงถึงทั้งคน ธรรมชาติ และอนาคตของโลกใบนี้

ทำไม Sustainability จึงมีความสำคัญในปัจจุบัน

  • โลกกำลังเผชิญวิกฤติหลายด้าน

    หนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้ความยั่งยืนกลายเป็นประเด็นสำคัญ คือการที่โลกกำลังเผชิญกับวิกฤติหลายมิติที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตมนุษย์โดยตรง เช่น ภาวะโลกร้อน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภัยธรรมชาติที่ทวีความรุนแรง ปัญหามลพิษ การขาดแคลนน้ำ และทรัพยากรธรรมชาติที่กำลังลดลงอย่างรวดเร็ว หากเราไม่เริ่มต้นจัดการกับปัญหาเหล่านี้ตั้งแต่วันนี้ โลกในอนาคตอาจไม่สามารถรองรับการดำรงอยู่ของมนุษย์ได้ในรูปแบบที่เราคุ้นเคยได้อีกต่อไป

  • ความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนไป

    ผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับจริยธรรมของแบรนด์มากขึ้น คนรุ่นใหม่มักเลือกซื้อสินค้าหรือสนับสนุนองค์กรที่แสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน ธุรกิจที่ไม่ปรับตัวให้เข้ากับแนวทางความยั่งยืนจึงเสี่ยงที่จะสูญเสียความไว้วางใจและส่วนแบ่งตลาดในระยะยาว

  • ความยั่งยืนช่วยลดความเสี่ยงในอนาคต

    แนวคิดของความยั่งยืนไม่ใช่เพียงเพื่อ “ทำดี” เท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารความเสี่ยงในอนาคต องค์กรที่นำหลักความยั่งยืนมาใช้ เช่น การลดการปล่อยคาร์บอน การใช้พลังงานสะอาด หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมักจะสามารถปรับตัวได้ดีกว่าเมื่อเกิดความผันผวนทางเศรษฐกิจหรือกฎหมายใหม่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม

  • ความยั่งยืนเป็นหัวใจของการพัฒนาในระยะยาว

    ในมิติของการพัฒนา ทั้งในระดับประเทศและระดับองค์กร การมีแนวคิดด้านความยั่งยืนเป็นเหมือนการวางแผนในระยะยาวเพื่อให้สามารถเจริญเติบโตได้อย่างมั่นคง โดยไม่ทำลายพื้นฐานทางทรัพยากรหรือสร้างปัญหาให้กับคนรุ่นหลัง ไม่ว่าจะเป็นการจัดการพลังงาน การออกแบบเมือง การใช้ทรัพยากร หรือการวางนโยบายเศรษฐกิจ ล้วนต้องอาศัยแนวคิดความยั่งยืนเป็นแกนหลัก

  • สนับสนุนเป้าหมาย SDGs ของสหประชาชาติ

    การพัฒนาอย่างยั่งยืนยังสอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ทั้ง 17 ข้อขององค์การสหประชาชาติที่มุ่งเน้นการขจัดความยากจน ส่งเสริมคุณภาพชีวิต และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งทุกประเทศและองค์กรทั่วโลกต่างได้รับแรงกดดันให้นำเป้าหมายเหล่านี้มาบูรณาการในแผนการดำเนินงานของตนเอง

ประโยชน์ของการพัฒนาอย่างยั่งยืน

  • อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

    การพัฒนาอย่างยั่งยืนช่วยให้มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระบบ เช่น การใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า การลดการตัดไม้ทำลายป่า และการใช้พลังงานหมุนเวียน ทรัพยากรเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์และระบบนิเวศในระยะยาว

  • ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

    ด้วยแนวทางที่เน้นลดของเสีย ลดคาร์บอนฟุตพรินต์ และส่งเสริมการรีไซเคิล การพัฒนาอย่างยั่งยืนช่วยลดภาระต่อสิ่งแวดล้อม ป้องกันมลพิษ และชะลอการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)

  • สร้างความเท่าเทียมและยกระดับคุณภาพชีวิต

    ส่งเสริมให้ประชาชนทุกกลุ่มมีโอกาสเข้าถึงทรัพยากรและบริการพื้นฐาน เช่น การศึกษา สุขภาพ และอาชีพอย่างเป็นธรรม ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ และส่งเสริมสังคมที่อยู่ร่วมกันอย่างสมดุลและยั่งยืน

  • เพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ

    องค์กรและธุรกิจที่ดำเนินงานอย่างยั่งยืนจะสามารถลดต้นทุนในระยะยาว ปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลงของตลาดโลก และดึงดูดนักลงทุนที่ใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคมได้ดียิ่งขึ้น

  • เสริมสร้างภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือขององค์กร

    การดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงความยั่งยืนจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นจากผู้บริโภค คู่ค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder) ซึ่งส่งผลดีต่อชื่อเสียงและความมั่นคงขององค์กรในระยะยาว

  • ลดความเสี่ยงจากวิกฤติและภัยธรรมชาติ

    การใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าและการวางแผนรองรับความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมจะช่วยให้องค์กรหรือชุมชนมีความยืดหยุ่นในการรับมือกับภัยพิบัติ เช่น ภัยแล้ง น้ำท่วม หรือวิกฤติพลังงาน

  • สนับสนุนนวัตกรรมและตลาดสีเขียว (Green Economy)

    การพัฒนาอย่างยั่งยืนเปิดโอกาสให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ผลิตภัณฑ์รักษ์โลก เทคโนโลยีพลังงานสะอาด และบริการเพื่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างงานในสาขาใหม่ๆ

  • สร้างความร่วมมือในระดับสากล

    ด้วยกรอบความร่วมมืออย่างเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ประเทศ องค์กร และประชาชนสามารถมีเป้าหมายร่วมกันในการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนในระดับโลก

เป้าหมายของการพัฒนาอย่างยั่งยืน

การพัฒนาอย่างยั่งยืนเป็นแนวทางที่มุ่งเน้นการสร้างสมดุลระหว่างความต้องการของปัจจุบันและการรักษาทรัพยากรสำหรับคนรุ่นอนาคตเพื่อให้ทั้งโลกสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและเป็นธรรม เป้าหมายหลักของการพัฒนาอย่างยั่งยืนคือการสร้างระบบเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่แข็งแรงและสมดุล โดยไม่ทำลายกันและกัน ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของมนุษย์ทุกคนโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

หนึ่งในกรอบที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลคือ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDGs ขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งประกอบด้วย 17 เป้าหมายหลักที่ครอบคลุมทุกมิติของการพัฒนา ตั้งแต่การขจัดความยากจน การสร้างความมั่นคงทางอาหาร การส่งเสริมสุขภาพและการศึกษา ไปจนถึงการแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เป้าหมายเหล่านี้ช่วยเป็นกรอบแนวทางให้ประเทศและองค์กรต่างๆ ดำเนินงานร่วมกันเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนและเท่าเทียม

นอกจากเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแล้ว การพัฒนาอย่างยั่งยืนยังมุ่งเน้นการเสริมสร้างความเท่าเทียมทางสังคม การเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจสำหรับทุกคน และการสร้างชุมชนที่เข้มแข็งและปลอดภัย เป้าหมายเหล่านี้สะท้อนถึงความจำเป็นในการจัดการทรัพยากรและการพัฒนาในลักษณะที่ไม่ทำลายพื้นฐานของชีวิตมนุษย์และสิ่งแวดล้อมโดยรอบ

อีกประเด็นที่สำคัญคือการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในสังคม ตั้งแต่ภาครัฐ ภาคธุรกิจ ชุมชนท้องถิ่น ไปจนถึงประชาชนทั่วไป เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการบรรลุเป้าหมายอย่างแท้จริง การพัฒนาอย่างยั่งยืนจึงไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นภารกิจร่วมกันของทุกคนที่อยู่บนโลกใบนี้

เป้าหมายของการพัฒนาอย่างยั่งยืนจึงเป็นการสร้างโลกที่มีความมั่นคง มีความเท่าเทียม และสามารถรักษาทรัพยากรธรรมชาติไว้ให้กับคนรุ่นอนาคตผ่านการพัฒนาในทุกมิติที่คำนึงถึงผลกระทบระยะยาวและการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลระหว่างมนุษย์และธรรมชาตินั่นเอง

ความท้าทายและโอกาสของการพัฒนาอย่างยั่งยืน

การพัฒนาอย่างยั่งยืนถือเป็นเป้าหมายสำคัญที่ทุกประเทศทั่วโลกกำลังมุ่งหน้าไปในทางเดียวกัน แต่กระนั้น การเดินทางสู่ความยั่งยืนก็ยังเต็มไปด้วยความท้าทายหลากหลายด้านที่ต้องได้รับการแก้ไข ความท้าทายหลักที่พบได้บ่อยคือการจัดการกับความขัดแย้งระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หลายประเทศและองค์กรยังคงให้ความสำคัญกับผลกำไรระยะสั้นมากกว่าการลงทุนในโครงการที่อาจมีผลดีในระยะยาว นอกจากนี้ การขาดแคลนทรัพยากร เช่น เงินทุน เทคโนโลยี และบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านความยั่งยืน ยังเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้หลายโครงการไม่สามารถดำเนินไปได้อย่างเต็มที่

ในด้านสังคม ความไม่เท่าเทียมและความเหลื่อมล้ำยังคงเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขเพื่อให้การพัฒนามีความครอบคลุมและยั่งยืน ผู้คนในบางพื้นที่ยังขาดโอกาสในการเข้าถึงการศึกษา การรักษาพยาบาล และโอกาสทางเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้เกิดช่องว่างทางสังคมที่ส่งผลต่อความมั่นคงและความสงบสุขของชุมชน

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายเหล่านี้ก็เปิดโอกาสให้เกิดนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก เทคโนโลยีสะอาด เช่น พลังงานทดแทน การจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ และระบบเกษตรกรรมที่ยั่งยืนกำลังได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็วและกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการบรรลุเป้าหมายความยั่งยืน อีกทั้งการตระหนักรู้และความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม กำลังเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับระบบ

นอกจากนี้ ตลาดสีเขียวและเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) กำลังกลายเป็นแนวทางใหม่ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างงาน สร้างรายได้ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การลงทุนในธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและความยั่งยืนในระยะยาว สำหรับองค์กรที่พร้อมจะปรับตัว ความท้าทายเหล่านี้จึงกลายเป็นโอกาสในการพัฒนาศักยภาพ สร้างนวัตกรรม และเติบโตอย่างมั่นคงในโลกยุคใหม่

แม้การพัฒนาอย่างยั่งยืนจะมีอุปสรรคและความท้าทายมากมาย แต่หากสามารถจัดการและใช้ประโยชน์จากโอกาสที่เกิดขึ้นได้อย่างชาญฉลาด จะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้โลกและสังคมก้าวไปสู่อนาคตที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง

ตัวอย่างแนวทางการปฏิบัติเพื่อสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน

การสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนไม่ใช่เรื่องที่จำกัดอยู่เพียงภาครัฐหรือองค์กรใหญ่เท่านั้น แต่เป็นหน้าที่ของทุกคนในสังคม ตั้งแต่บุคคลทั่วไปจนถึงภาคธุรกิจและหน่วยงานต่างๆ ซึ่งมีแนวทางปฏิบัติที่หลากหลายและสามารถปรับใช้ได้ตามบริบทของแต่ละกลุ่ม หนึ่งในตัวอย่างแนวทางปฏิบัติที่เห็นได้ชัดคือการลดการใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การเลือกใช้หลอดไฟ LED แทนหลอดไฟแบบเก่า การปรับอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสม และการใช้ระบบจัดการพลังงานในอาคารเพื่อลดการสูญเสียพลังงาน นอกจากนี้ การลดขยะโดยการแยกประเภทขยะเพื่อนำไปรีไซเคิลและลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ได้รับความนิยมและมีผลดีต่อสิ่งแวดล้อมโดยตรง

ในภาคธุรกิจ การสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนสามารถทำได้โดยการเลือกใช้วัตถุดิบที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้วัสดุรีไซเคิลหรือวัสดุที่ได้จากการจัดการป่าอย่างยั่งยืน รวมถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เน้นการลดของเสียและการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า อีกทั้งยังสามารถนำระบบการบริหารจัดการคุณภาพและสิ่งแวดล้อม เช่น ISO 14001 มาใช้เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามมาตรฐานสากลและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นระบบ

สำหรับภาคชุมชนและบุคคลทั่วไป การสร้างจิตสำนึกและความร่วมมือในการรักษาสิ่งแวดล้อมก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ เช่น การปลูกต้นไม้ในพื้นที่สาธารณะ การจัดกิจกรรมทำความสะอาดชุมชน และการส่งเสริมการเดินทางโดยใช้พาหนะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างการใช้จักรยานหรือรถโดยสารสาธารณะ นอกจากนี้ การสนับสนุนผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นและการบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบก็ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่นและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการขนส่งสินค้า

ในระดับนโยบาย รัฐบาลและองค์กรต่างๆ สามารถสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยการกำหนดกฎหมายและมาตรฐานที่ชัดเจน เช่น การจำกัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การส่งเสริมพลังงานทดแทน และการสนับสนุนโครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีสะอาด นอกจากนี้ การสร้างความรู้ความเข้าใจและส่งเสริมการศึกษาด้านความยั่งยืนในทุกระดับการศึกษาจะช่วยให้คนรุ่นใหม่เติบโตขึ้นด้วยจิตสำนึกที่พร้อมรับผิดชอบต่อโลกใบนี้

โดยสรุปแล้ว การปฏิบัติเพื่อสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนสามารถทำได้ในหลายระดับ ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมส่วนบุคคล การบริหารจัดการองค์กรอย่างรับผิดชอบ ไปจนถึงนโยบายระดับชาติและนานาชาติ เมื่อทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างจริงจัง ความยั่งยืนจะกลายเป็นเป้าหมายที่จับต้องได้และนำไปสู่โลกที่น่าอยู่สำหรับทุกคน

สรุป

การพัฒนาอย่างยั่งยืนเป็นแนวทางสำคัญที่ช่วยให้โลกของเราสามารถเติบโตและดำรงอยู่ได้อย่างสมดุลระหว่างความต้องการของมนุษย์กับการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งในมิติของเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ความยั่งยืนไม่ใช่เรื่องที่จำกัดอยู่เพียงภาครัฐหรือองค์กรใหญ่เท่านั้น แต่เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของทุกคนในสังคม ไม่ว่าจะเป็นบุคคล ธุรกิจ หรือชุมชน การร่วมมือกันในทุกระดับจะช่วยให้เราสามารถแก้ไขปัญหาสำคัญอย่างเช่นภาวะโลกร้อน ความยากจน และความเหลื่อมล้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการนำแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมมาใช้จะช่วยสร้างโลกที่น่าอยู่สำหรับคนรุ่นปัจจุบันและอนาคต การเปลี่ยนแปลงแม้เพียงเล็กน้อยจากแต่ละคน เมื่อรวมกันจะกลายเป็นพลังยิ่งใหญ่ในการสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับโลกใบนี้ ด้วยเหตุนี้ การพัฒนาอย่างยั่งยืนจึงไม่ใช่เพียงแค่เป้าหมาย แต่เป็นภารกิจที่ทุกคนควรมีส่วนร่วมและรักษาไว้ตลอดไป

แนวทางและโครงการพัฒนาที่ยั่งยืนของ GPSC เพื่อโลกและสังคมที่ดีขึ้น

บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ (GPSC) ได้กำหนดนโยบายการบริหารจัดการความยั่งยืนที่มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล โดยสอดคล้องกับมาตรฐานความยั่งยืนของ PTT Group และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ของสหประชาชาติ นโยบายนี้ครอบคลุมสามมิติหลัก ได้แก่ สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ซึ่งมุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน การพัฒนาชุมชน และการดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใสและมีจริยธรรม

โครงการและนโยบายที่เกี่ยวข้อง

GPSC ได้ดำเนินโครงการและนโยบายที่สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการใช้พลังงานสะอาด การพัฒนานวัตกรรม การส่งเสริมชุมชน และการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยให้บริษัทบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ แต่ยังมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติอีกด้วย

  • • โครงการพลังงานทดแทนและการจัดการพลังงาน: GPSC ได้ดำเนินโครงการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ เช่น โครงการโซลาร์ลอยน้ำร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (SUT) และโครงการโซลาร์ลอยน้ำในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน ซึ่งเป็นการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและลดการพึ่งพาพลังงานจากแหล่งที่ไม่ยั่งยืน
  • โครงการการจัดการพลังงานและน้ำอย่างยั่งยืน: ผ่านบริษัทในเครือ CHPP GPSC ได้ให้บริการระบบจัดการพลังงานและน้ำแบบครบวงจรแก่ลูกค้า เช่น การติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ การจัดการพลังงานในอาคาร และการจัดการน้ำในระบบทำความเย็น ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานและน้ำ และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
  • โครงการเศรษฐกิจหมุนเวียน: GPSC ได้ร่วมมือกับ INSEE Ecocycle ในการพัฒนาโรงงานผลิตพลังงานจากเชื้อเพลิงที่ได้จากขยะ (RDF) และโรงงานรีไซเคิลแผงโซลาร์เซลล์และแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นการนำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ ลดของเสีย และเพิ่มมูลค่าจากทรัพยากรที่มีอยู่
  • โครงการการพัฒนาชุมชนและสังคม: GPSC ได้ดำเนินโครงการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์และระบบจัดเก็บพลังงานในศูนย์สุขภาพชุมชนในพื้นที่ห่างไกล เช่น อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ และเกาะขาม อุทยานใต้ทะเล จังหวัดชลบุรี ซึ่งช่วยให้ชุมชนเข้าถึงพลังงานสะอาด ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน และส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน
  • โครงการการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสังคม: GPSC ร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ขับเคลื่อนโครงการ GPSC Smart Farming โดยมุ่งเน้นการสนับสนุนนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์เพื่อยกระดับเกษตรกรรม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ให้เติบโตอย่างยั่งยืน
  • โครงการและนโยบายของ GPSC มีความสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) หลายประการ เช่น
  • SDG 7 (Affordable and Clean Energy): การส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและพลังงานทดแทน เช่น โครงการโซลาร์ลอยน้ำและโครงการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ในชุมชน
  • SDG 9 (Industry, Innovation, and Infrastructure): การพัฒนานวัตกรรมด้านพลังงานและการจัดการทรัพยากร เช่น โครงการ GPSC Smart Farming พื้นที่บ้านห้วยขาบ อ.บ่อเกลือ จ.น่าน และพื้นที่ EECi อ.วังจันทร์ จ.ระยอง และการพัฒนาเทคโนโลยีการจัดการพลังงานและน้ำ
  • SDG 11 (Sustainable Cities and Communities): การพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนผ่านโครงการติดตั้งระบบพลังงานในพื้นที่ห่างไกลและการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน
  • SDG 12 (Responsible Consumption and Production): การนำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ เช่น โครงการรีไซเคิลแผงโซลาร์เซลล์และแบตเตอรี่
  • SDG 13 (Climate Action): การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านโครงการต่างๆ เช่น การติดตั้งระบบพลังงานสะอาดและการใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

แชร์ข่าวสารนี้:

555/2 ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ อาคาร B ชั้น 5 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

  • อีเมล: corporate@gpscgroup.com
  • โทรศัพท์: 0 2140 4600
  • โทรสาร: 0 2140 4601
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับเรา
  • ธุรกิจของเรา
  • การพัฒนาที่ยั่งยืน
  • นักลงทุนสัมพันธ์
  • ข่าวและกิจกรรม
  • การกำกับดูแลกิจการที่ดี
  • ร่วมงานกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • นโยบายการใช้คุกกี้
  • ข้อมูลส่วนบุคคล
  • Webmail
  • การจัดซื้อจัดจ้าง
  • GLOW
  • HHPC
  • CHPP
  • NUOVO PLUS

© สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2564 บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน)

  • แผนผังเว็บไซต์
ติดตามเรา