โครงการ Light for a Better Life (LBL) เป็นโครงการดูแลช่วยเหลือสังคมโดยใช้นวัตกรรม เทคโนโลยี่และองค์ความรู้ความเชี่ยวชาญของพนักงานในกลุ่มบริษัทฯ เพื่อดูแลระบบไฟฟ้าให้กับชุมชน สังคม สะท้อนการเป็นบริษัทแกนนำนวัตกรรมพลังงานไฟฟ้าของกลุ่ม ปตท. โดยใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของพนักงาน (Expertise) เพื่อดูแลผู้คนในชุมชน สังคม และประเทศชาติ (People of the Planet) ใน 4 ด้านหลัก ๆ คือ ความปลอดภัย (Safety) ความประหยัด (Saving) ความมั่นคงทางพลังงาน (Security) และ เศรษฐกิจ-สังคม (Socio-Economic)
Safety
ปรับปรุง ซ่อมแซมระบบไฟฟ้าให้กับสาธารณสถาน อาทิ โรงเรียน วัด สถานพยาบาลท้องถิ่น เพื่อลดความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินจากการเกิดเพลิงไหม้ ไฟฟ้าลัดวงจร รวมถึงการซ่อมแซมและฟื้นฟูระบบไฟฟ้าให้กับหน่วยงานราชการท้องถิ่นกรณีประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ
Saving
ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อประหยัดพลังงาน รวมถึงการติดตั้งระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อลดค่าใช้จ่ายและสามารถนำเงินที่ประหยัดได้ไปพัฒนาหรือทำกิจกรรมอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อหน่วยงาน
Security
ติดตั้งระบบไฟฟ้าพลังงานทางเลือกในถิ่นทุรกันดาร เพื่อให้คนในชุมชนและสังคมมีคุณภาพชีวิตที่ดี ลดอุปสรรคในการใช้ชีวิต รวมถึงเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้า เช่น การติดตั้งระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ให้แก่ โรงพยาบาล สถานบริการด้านสาธารณสุข และสถานศึกษาในพื้นที่ห่างไกล เป็นต้น
Socio-economic
สร้างและส่งเสริมอาชีพให้กับคนในชุมชน โดยการฝึกอบรมคนในชุมชนให้มีทักษะอาชีพสามารถเป็นช่างไฟฟ้าพื้นฐาน ดูแลครัวเรือนชุมชนของตนเองและก่อให้เกิดรายได้เสริม หรืออาจพัฒนาเป็นรายได้หลักให้กับตนเองต่อไป
โครงการ LBL ถือว่าเป็นโครงการด้านความรับผิดชอบต่อสังคมที่มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ เนื่องจากสอดคล้องกับธุรกิจและความเชี่ยวชาญขององค์กร รวมทั้งเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals: SDGs) และทิศทางด้านพลังงานของโลก ซึ่งภายใต้โครงการนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้า “โครงการคนมีไฟ” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยร่วมมือกับพันธมิตรอย่างกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อสนับสนุนการนาพลังงานจากแสงอาทิตย์มาใช้ลดค่าไฟฟ้าให้กับหน่วยงานสาธารณประโยชน์ โดยกำหนดให้ผู้รับผลประโยชน์นำค่าไฟที่ประหยัดได้ไปต่อยอดให้เกิดโครงการพัฒนาชุมชนโดยรอบอย่างยั่งยืน โดยในปี 2567 มีหน่วยงานให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการคนมีไฟ ปีที่ 2 ทั้งสิ้น 42 หน่วยงาน และมี 10 หน่วยงานที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการ
สรุปกำลังการผลิตติดตั้งระบบไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ทั้ง 10 แห่ง รวม 106.25 กิโลวัตต์สูงสุด โดยคาดว่าจะประหยัดค่าไฟได้ทั้งสิ้น 668,561.04 บาท และลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ได้ 75.57 ตันคาร์บอนไดออกไซต์เทียบเท่าต่อปี
นอกเหนือจากโครงการคนมีไฟแล้ว บริษัทฯ ยังมีหน่วยงานภายนอกอื่นๆ ที่ได้รับการสนับสนุนระบบไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์จากบริษัทฯ เช่น ศูนย์พัฒนากีฬากรมการทหารช่าง ค่ายบุรฉัตร จังหวัดราชบุรี ที่บริษัทฯ ได้ติดตั้งระบบขนาดไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ ขนาด 16.12 กิโลวัตต์สูงสุด ให้ และได้ให้ความรู้ด้านการบำรุงรักษาระบบกับทหารที่ประจาการอยู่ที่นั่น นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้จับมือกับ บริษัท ชิน-เอทซุ ซิลิโคนส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นลูกค้า ในการติดตั้งระบบ
ไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ ขนาด 3.3 กิโลวัตต์สูงสุด ให้กับโรงเรียนวัดเนินกระปรอก อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ซึ่งมีนักเรียนประมาณ 300 คน เพื่อลดค่าไฟฟ้าและดูแลแปลงเกษตรให้กับโรงเรียน
จนถึงปัจจุบัน มีหลายหน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนการติดตั้งระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จากบริษัทฯ และยังคงได้รับประโยชน์จากค่าไฟฟ้าที่ลดลง คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3,309,461.53 บาทต่อปี ในปี 2567 และเฉพาะโครงการที่ติดตั้งในปี 2567 อย่างเดียวสามารถประหยัดค่าไฟได้ทั้งสิ้น 132,655.42 บาท