ขั้นตอนที่ 1

การระบุประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้อง (Identification)

ขั้นตอนที่ 2

การประเมินและจัดลำดับผลกระทบของประเด็นสำคัญ (Assessment and Prioritization)

ขั้นตอนที่ 3

การทวนสอบประเด็นสำคัญของรายงาน (Validation)

ขั้นตอนที่ 4

การพัฒนาการรายงานด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง (Review)

การดำเนินการ

ระบุกิจกรรมและประเด็นสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อความยั่งยืนของบริษัทฯ ให้ครอบคลุมมิติด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยพิจารณาจากผลกระทบ (เชิงบวก และเชิงลบ) ความคาดหวัง ความสนใจ และความกังวลของผู้มีส่วนได้เสียทั้ง 8 กลุ่ม (อันได้แก่ ผู้ถือหุ้น นักลงทุน หน่วยงานภาครัฐ พนักงาน คู่ค้า หุ้นส่วน ลูกค้า และ ชุมชนและสังคม) นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังพิจารณาถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของโลกและในอุตสาหกรรม เหตุการณ์ในอดีต ปัจจัยความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบในอนาคต โอกาสในการดำเนินธุรกิจ ตัวชี้วัดมาตรฐานของ GRI และหลักสิทธิมนุษยชนสากล

ในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ บริษัทฯ ปฏิบัติตามข้อบังคับของกฎหมายอย่างเคร่งครัดเป็นพื้นฐาน และประยุกต์ใช้แนวปฏิบัติสากลอื่นๆที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงาน โดยมีหน่วยงานการกำกับดูแลและมีระบบการตรวจสอบการดำเนินธุรกิจให้เป็นไปข้อบังคับของกฎหมายอย่างชัดเจน รวมถึงมีช่องทางร้องเรียน (Whistleblower) การตรวจสอบอย่างรอบด้าน (Due diligence) ที่มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ดี ในปี 2567 บริษัทฯ ไม่มีการละเมิดกฎหมายหรือข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง

แนวทางการปฏิบัติ
  • มาตรฐานการบริหารจัดการความยั่งยืน ปตท. และบริษัทฯ
  • เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs)
  • แนวทางปฏิบัติสากล ได้แก่ GRI1, DJSI2, SDGs3, wbcsd4, CDP5, ISO 260006, UNGC7, IIRC8 และอื่นๆ
  • การรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียทั้งภายในและภายนอกองค์กร
  • การสำรวจความพึงพอใจของชุมชน
  • การสำรวจความผูกพันของพนักงานต่อองค์กร
  • การสำรวจความพึงพอใจของลูกค้า
  • กระบวนการพัฒนาภาพลักษณ์องค์กร
  • การรับข้อร้องเรียนผ่านช่องทางต่างๆ
  • การประเมินความเสี่ยงขององค์กร
การดำเนินการ

ประเมินสำคัญด้านความยั่งยืนในรูปแบบ Double Materiality เป็นการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และผู้มีส่วนได้เสีย (ภายนอกองค์กร) และผลกระทบต่อบริษัท (ในเชิงการเงินและไม่ใช้การเงิน) โดยพิจารณาความคิดเห็นและความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสีย จากการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์สำหรับผู้มีส่วนได้เสียภายนอก ซึ่งได้รับการคัดเลือกโดยใช้วิธีการเลือกตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive selection for interview) และการใช้แบบสำรวจออนไลน์สำหรับผู้มีส่วนได้เสียภายในองค์กร ซึ่งข้อมูลที่รวบรวมได้จากผู้มีส่วนได้เสีย จะถูกวิเคราะห์ในรูปแบบคะแนนที่ให้ต่อประเด็นสำคัญภายใต้เกณฑ์การประเมินระดับความรุนแรงและโอกาสของการเกิดผลกระทบ ทั้งต่อ บริษัทฯ และต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และผู้มีส่วนได้เสีย จากนั้น ประเด็นสำคัญจะถูกจัดกลุ่มโดยใช้มาตรประมาณค่า (Rating scale) ในการแบ่งระดับผลกระทบของแต่ละประเด็นสำคัญ ออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1) ประเด็นหลัก (Key material issue) ซึ่งมีคะแนนระดับผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสียอยู่ในระดับสูงถึงสูงมาก และ 2) ประเด็นพื้นฐาน (Fundamental material issue) ซึ่งมีคะแนนระดับผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสียอยู่ในระดับต่ำถึงปานกลาง โดยประเด็นพื้นฐานเป็นประเด็นที่บริษัทฯ ต้องบริหารจัดการตามบังคับของกฎหมาย

แนวทางการปฏิบัติ
  • การสัมภาษณ์ผู้มีส่วนได้เสียภายนอก
  • การสำรวจความความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียภายในจากแบบสำรวจออนไลน์
  • การประเมินและจัดกลุ่มประเด็นสำคัญตามระดับของผลกระทบ
  • การจัดลำดับผลกระทบของประเด็นสำคัญ
การดำเนินการ

จัดทำผลสรุปประเด็นสำคัญต่อบริษัทฯ โดยการรวบรวมผลการประเมินประเด็นสำคัญและการทวนสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ (Testing the material topics by expert) เพื่อให้มั่นใจได้ว่าประเด็นสำคัญหลักนั้น เป็นประเด็นที่สอดคล้องกับการแนวโน้มเปลี่ยนแปลงของโลกและครอบคลุมทุกประเด็นในกลุ่มธุรกิจการผลิตไฟฟ้า รวมถึงการระบุความสอดคล้องระหว่างประเด็นสำคัญกับหมวดการรายงานของ GRI (GRI aspects) สำหรับการเสนอต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบภายในองค์กร เพื่อจัดทำกลยุทธ์และแนวทางการจัดการต่อประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนของ บริษัทฯ

คณะกรรมการจัดการของบริษัทฯ มีบทบาทหน้าที่เป็นผู้ทบทวนและอนุมัติเนื้อหาในประเด็นสำคัญ ก่อนจะมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเตรียมแผนการบริหารจัดการผลกระทบจากความเสี่ยงในประเด็นสำคัญต่าง ๆ โดยบูรณาการเข้ากับการบริหารจัดการความเสี่ยงขององค์กร (Enterprise Risk Management) นอกจากนี้ คณะกรรมการจัดการของบริษัทฯ ยังมีหน้าที่ตรวจทานข้อมูลสำหรับการจัดทำรายงานนั้นให้มีความโปร่งใส ถูกต้อง และสอดคล้องตามข้อกำหนดการรายงาน ตามตัวชี้วัดมาตรฐานของ GRI ที่จะนำเสนอในรายงานความยั่งยืนประจำปี

แนวทางการปฏิบัติ
  • การทวนสอบประเด็นสำคัญโดยผู้เชี่ยวชาญ
  • การประชุมและทบทวนประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนของบริษัทฯ โดยกลุ่มผู้บริหารของบริษัทฯ
การดำเนินการ

ทบทวนและพัฒนาการรายงานด้านความยั่งยืนแบบบูรณาการอย่างต่อเนื่อง โดยการทวนสอบรายงานฯ เพื่อให้มั่นใจว่าประเด็นสำคัญที่บริษัทฯ จำเป็นต้องบริหารจัดการให้ดีนั้น ตอบสนองต่อความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสีย นอกจากนี้ การพัฒนากระบวนการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสีย ด้วยการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ เช่น การเข้าร่วมการประเมินรางวัลรายงานความยั่งยืน ซึ่งจัดทำโดยสำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และ สถาบันไทยพัฒน์ เป็นต้น ยังเป็นส่วนสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพของการจัดทำรายงาน อีกทั้งยังสะท้อนถึงประเด็นที่ผู้มีส่วนได้เสียให้ความสำคัญได้ดียิ่งขึ้น

แนวทางการปฏิบัติ
  • การทวนสอบรายงานความยั่งยืนโดยหน่วยงานภายนอก
  • การรับข้อร้องเรียนและข้อเสนอแนะผ่านช่องทางต่างๆ
  • การประชุมกลุ่มย่อยจากหน่วยงานด้านความยั่งยืน เพื่อทบทวนการรายงานและผลการดำเนินงานด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ของหน่วยงานที่ได้มอบหมาย
  • การรายงานผลการดำเนินงานตามแผนด้านด้านความยั่งยืนต่อคณะผู้บริหารฯ ทุกไตรมาส
หมายเหตุ:

1 Global Reporting Initiative (GRI) คือ องค์การแห่งความริเริ่มว่าด้วยการรายงาน สากล เพื่อใช้เป็นแม่แบบในการจัดทำรายงานความยั่งยืน

2 Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) คือ ดัชนีหลักทรัพย์ที่ประเมินประสิทธิ ผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทชั้นนำระดับโลก ซึ่งกองทุนต่างๆ จากทั่วโลกใช้เป็นเกณฑ์ในการลงทุน

3 Sustainable Development Goals (SDGs) คือ เป้าหมายการพัฒนาทยั่งยืนภายใต้ กรอบองค์กรสหประชาชาติ (United Nation: UN) ประกอบด้วย 17 เป้าหมายหลัก ที่ต้องการบรรลุและดำเนินการให้ได้ภายในปี ค.ศ. 2030 (พ.ศ. 2573)

4 World Business Council for Sustainable Development (wbcsd) คือ คณะกรรมการนักธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทชนนำระหว่างประเทศ กว่า 120 บริษัท และได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการในการประชุมสุดยอดด้าน สิ่งแวดล้อม “Earth Summit” เมื่อปี ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535)

5 Carbon Disclosure Project (CDP) คือ สถาบันระดับโลกที่ได้รับการยอมรับสูงสุด ด้านการประเมินการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม

6 ISO 26000 คือ มาตรฐานสากลด้านความรับผิดชอบต่อสังคม

7 UN Global Compact (UNGC) คือ ข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ ซึ่งเป็นแนวทาง ในการกำหนดกลยุทธ์และการปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักการที่ยอมรับโดยสากล ในขอบเขตเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน แรงงาน สิ่งแวดล้อม และการต่อต้านทุจริต

8 International Integrated Reporting Council (IIRC) คือ รายงานแบบบูรณาการ เป็นรายงานที่นำเสนอการดำเนินงานขององค์กรที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ธุรกิจและ การกำกับดูแลกิจการขององค์กร ตลอดจนนำเสนอผลการดำเนินการขององค์กร ที่สร้างคุณค่าต่อองค์กรและผู้มีส่วนได้เสียขององค์กรทั้งภายในและภายนอก ทั้งใน ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว

ประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนของบริษัทฯ (Double Materiality Assessment) ปี 2567
GRI 3-1, 3-2, 3-3

การประเมินประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน ปี 2566 พบว่า มีบริบทการเปลี่ยนแปลงจากปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบ (เชิงบวกและเชิงลบ) และการสร้างคุณค่าในระยะยาวต่อผู้มีส่วนได้เสียและธุรกิจ ทั้งแรงกดดันจากภายในและภายนอกบริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็นการปรับตัวในภาวะเศรษฐกิจผันผวน การผลักดันให้เกิดการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate change) ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์และวิกฤตการณ์ทางพลังงาน แนวโน้มความต้องการของตลาดและรูปแบบการใช้พลังงานที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงหลักสิทธิมนุษยชนและความหลากหลายทางชีวภาพที่ทั่วโลกให้ความสำคัญมากขึ้น ส่งผลให้ประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนของบริษัทฯ มีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้

ประเด็นที่สำคัญ (Material Issue) ระดับผลกระทบ (Impact Level)
ประเด็นหลัก
(Key Material Issue)
พลังงานสะอาดสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
(Clean Energy Towards Net Zero)
การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม
(Environmental Management)
การขับเคลื่อนสู่ตลาดความยั่งยืนแห่งอนาคต
(Capturing the Future Sustainability Market)
การกำกับดูแลกิจการที่ดีและการปฏิบัติตามข้อกำหนด
(Corporate Governance & Compliance)
พนักงานคือหัวใจขององค์กร
(Employee-focused Organization)
การบริหารความเสี่ยงและภาวะวิกฤต
(Risk & Crisis Management)
ประเด็นพื้นฐาน
(Fundamental Material Issue)
การพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน
(Corporate Social Responsibility)
ความมั่นคงด้านเสถียรภาพและความพร้อมของการดำเนินการผลิต
(Maintaining Availability and Reliability)
ความหลากหลายทางชีวภาพ
(Biodiversity)
อาชีวอนามัยและความปลอดภัย
(Occupational Health and Safety)
การจัดการห่วงโซ่อุปทาน
(Supply Chain Management)
ก้าวสู่ความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม
(Being an Innovative Leader)
การบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า
(Customer Relationship Management)
ความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศและไซเบอร์
(Information Security/ Cybersecurity Governance)
หมายเหตุ
ประเด็นหลัก (Key material issue)

คือประเด็นที่ผู้มีส่วนได้เสีย (ภายในและภายนอกบริษัทฯ) ให้ความสำคัญต่อผลกระทบในประเด็นต่าง ๆ ทั้งในมิติด้านเศรษฐกิจ (การกำกับดูแลกิจการ) สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยพิจารณาคะแนนระดับของผลกระทบในประเด็นต่างๆ ทั้งเชิงบวกและลบอย่างมีนัยสำคัญ (ผลกระทบอยู่ในระดับสูงถึงระดับสูงมาก) ภายใต้เกณฑ์ความรุนแรงและโอกาสการเกิดของผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสียทั้งภายในและภายนอก รวมถึงผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ

  • ผลกระทบเชิงบวก: เช่น สร้างผลประกอบการผลกำไรที่ดี สร้างการเติบโตทางธุรกิจ ส่งเสริมคุณภาพชีวิต ส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
  • ผลกระทบเชิงลบ: เช่น เกิดความสูญเสียทางธุรกิจหรือค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูผลกระทบ เกิดการละเมิดกฎหมายหรือข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลง ทำให้สิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม เป็นต้น
  • หมายถึง ผลกระทบอยู่ในระดับสูงมาก (ความเสี่ยงและโอกาสทางธุรกิจสูงมาก)
  • หมายถึง ผลกระทบอยู่ในระดับสูง (ความเสี่ยงและโอกาสทางธุรกิจสูง)
ประเด็นพื้นฐาน (Fundamental material issue)

คือประเด็นพื้นฐานสำหรับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ที่ต้องบริหารจัดการให้สอดคล้องตามกฎหมาย มาตรฐาน หรือแนวปฏิบัติทั่วไป โดยผู้มีส่วนได้เสีย (ภายในและภายนอกบริษัทฯ) ได้ให้ความสำคัญต่อผลกระทบในประเด็นสำคัญอยู่ในระดับต่ำถึงระดับปานกลาง

  • หมายถึง ผลกระทบอยู่ในระดับปานกลาง (ความเสี่ยงและโอกาสทางธุรกิจปานกลาง)
  • หมายถึง ผลกระทบอยู่ในระดับต่ำ (ความเสี่ยงและโอกาสทางธุรกิจต่ำ)

ประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนที่ได้จากการประเมินประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนจะถูกนำไปใช้ในกระบวนการบริหารความเสี่ยงองค์กรเพื่อจัดทำกลยุทธ์ทางธุรกิจและแผนบริหารความเสี่ยงที่ตรงตามความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสียและเป้าหมายทางธุรกิจ ดังแสดงในภาพต่อไปนี้

ประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนจะถูกนำไปใช้ในกระบวนการระบุความเสี่ยงองค์กร (กระบวนการที่ 1) เป็นข้อมูลเสริม ร่วมกับการเปลี่ยนแปลงปัจจัยทั้งภายในและภายนอกที่อาจเกิดขึ้น เพื่อระบุความเสี่ยงองค์กร นอกจากนั้น ประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนเหล่านี้ยังใช้เพื่อทวนสอบความเสี่ยงระดับองค์กรที่สำคัญ โดยมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงระดับองค์กรดังแสดงในตารางต่อไปนี้

ประเด็นหลัก ด้านความเสี่ยง ความเชื่อมโยงกับความเสี่ยงองค์กร
พลังงานสะอาดสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม ความเสี่ยงเชิงปฏิบัติการ ความมั่นคง ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม
การขับเคลื่อนสู่ตลาดความยั่งยืนแห่งอนาคต ความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์ การลงทุนและการขยายธุรกิจ
การกำกับดูแลกิจการที่ดีและการปฏิบัติตามข้อกำหนด ความเสี่ยงเชิงปฏิบัติการ การทุจริตคอร์รัปชัน
พนักงานคือหัวใจขององค์กร ความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์ การบริหารศักยภาพองค์กร
การบริหารความเสี่ยงและภาวะวิกฤต ความเสี่ยงด้านการเงิน การจัดการเงินทุนเพื่อการขยายธุรกิจ
ประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนของบริษัทฯ ประจำปี 2567

ในปี 2567 บริษัทได้ประเมินประเด็นด้านความยั่งยืนที่สำคัญ แบ่งออกเป็นประเด็นสำคัญที่มีสาระสำคัญ 6 ประเด็น และประเด็นสำคัญพื้นฐาน 8 ประเด็น รายละเอียดผลกระทบต่อบริษัทและผู้มีส่วนได้เสียภายนอก ได้แก่ ผู้ถือหุ้น นักลงทุน ภาครัฐ พนักงาน คู่ค้า หุ้นส่วน ลูกค้า และชุมชน (ตามหลัก Double Materiality Principle) มีดังนี้ :

GPSC Materiality Assessment Approval
ประเด็นสําคัญ (Material Issue) ผลกระทบ
(เชิงบวกและเชิงลบ) (1)
การเกิดผลกระทบ กลุ่มผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง (Stakeholder) ผลกระทบทางการเงิน(2) Global
reporting
Initiative: GRI
ความสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SustainableDevelopmentGoals : SDGs)
เกิดขึ้นแล้วในอดีตและปัจจุบัน มีโอกาสเกิดขึ้นในอนาคต
ประเด็นสําคัญหลัก (Key Material Issue)
พลังงานสะอาดสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
  • บริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการพลังงานไฟฟ้าที่สำคัญของประเทศที่เป็นส่วนผลักดันเป้าหมายด้านพลังงานสะอาดและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
  • ดึงดูดนักลงทุนเข้ามาจากต่างประเทศ ในอุตสาหกรรมการใช้พลังงาน
  ภาครัฐ, ลูกค้า, คู่ค้า, นักลงทุน, หุ้นส่วน
  • Management Approach (3-1, 3-2, 3-3)
  • Energy (302-1, 302-3, 302-4)
  • Emission (305-1, 305-2, 305-3, 305-4, 305-7)
  • สนับสนุนธุรกิจและนวัตกรรมคาร์บอนต่ำ ที่มีแนวโน้มเติบใตในอนาคต
  • ส่งเสริมให้พนักงานทั่วทั้งองค์กรตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินการเพื่อนำไปสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
  • หากไม่มีแผนบริหารความเสี่ยงที่ชัดเจนอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและคู่ค้า
ผู้ถือหุ้น, นักลงทุน, หุ้นส่วน, ลูกค้า, พนักงาน, คู่ค้า
  • ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งพลังงานสะอาดของผู้บริโภค
  • อาจเผชิญกับความท้าทายด้านต้นทุนและเทคโนโลยีในการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาด
  • คู่ค้าอาจเผชิญกับข้อกำหนดเพิ่มเติมในกระบวนการดำเนินธุรกิจเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนของบริษัทฯ
ลูกค้า, สังคมและชุมชน
การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม
  • เป็นข้อบังคับตามกฎหมายที่บริษัทฯ ต้องปฏิบัติตาม ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กรและดำเนินกิจการโดยตรง
  ผู้ถือหุ้น, นักลงทุน, ภาครัฐ, สังคมและชุมชน, ลูกค้า
  • Strategy, Policies, and Practices (2-23, 2-24)
  • Management Approach (3-1, 3-2, 3-3)
  • Water (303-1, 303-2, 303-3, 303-4, 303-5)
  • Emissions (305-7)
  • Effluents and Waste (306-1, 306-2, 306-3, 306-4, 306-5)
  • Environmental Compliance (307-1)
  • การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดีช่วยเสริมสร้างความไว้วางใจระหว่างบริษัทและชุมชน และส่งเสริมการพัฒนาพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน
  • ตอบสนองต่อนโยบายรัฐ
  • สร้างภาพลักษณ์ที่ดีและความเชื่อมั่นต่อองค์กร
  • บริหารจัดการข้อกังวลของชุมชนเกี่ยวกับการปล่อยฝุ่นจากโรงไฟฟ้า
  • อาจมีต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้นจากมาตรการควบคุมสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น
  • หากขาดแผนการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมที่ชัดเจนอาจนำไปสู่การบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดขึ้น และกระทบต่อความต่อเนื่องของการดำเนินธุรกิจ
ผู้ถือหุ้น, นักลงทุน, ภาครัฐ, สังคมและชุมชน, ลูกค้า
การขับเคลื่อนสู่ตลาดความยั่งยืนแห่งอนาคต
  • สอดคล้องและสนับสนุนแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของตลาด ความต้องการของลูกค้า และนโยบายภาครัฐ
  • อาจต้องเผชิญกับความท้าทายจากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นและข้อกำหนดด้านความยั่งยืนที่ซับซ้อนขึ้น
  ผู้ถือหุ้น, นักลงทุน, ภาครัฐ, ลูกค้า, คู่ค้า
  • Management Approach (3-1, 3-2, 3-3)
  • Indirect Economic Impacts (203-1)
  • ˗ สร้างความร่วมมือในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่จัดเป็นการสร้างคุณค่าและโอกาสทางตลาดแก่บริษัทฯ และคู่ร่วมทางธุรกิจ
  หุ้นส่วน
การกำกับดูแลกิจการที่ดีและการปฏิบัติตามข้อกำหนด
  • สร้างความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจร่วมกับผู้มีส่วนได้เสีย
  • แลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมายและจรรยาบรรณธุรกิจ
  • การกำกับดูแลกิจการที่ดีในทุกมิติ (ESG) ช่วยให้บริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
ผู้ถือหุ้น, นักลงทุน, หุ้นส่วน, ลูกค้า, คู่ค้า
  • Management Approach (3-1, 3-2, 3-3)
  • Organization Profile (2-11)
  • Governance (2-9, 2-10, 2-11, 2-13, 2-15, 2-23, 2-24, 2-25, 2-26, 2-27)
  • Anti-corruption (205-3)
การบริหารความเสี่ยงและภาวะวิกฤต
  • สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้เสียโดยการบริหารความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
  • อาจมีความเสี่ยงใหม่ๆ ในการดำเนินกิจการ กระทบต่อผลประกอบการของบริษัทฯ และการให้บริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนในต่างประเทศ
  • กระทบต่อความเชื่อมั่นของบริษัทฯ หากไม่มีการจัดการทีเหมาะสม
ผู้ถือหุ้น, นักลงทุน, ลูกค้า, หุ้นส่วน
  • Management Approach (3-1, 3-2, 3-3)
  • Governance (2-12, 2-13, 2-16, 2-23, 2-24)
พนักงานคือหัวใจขององค์กร
  • พนักงานเป็นส่วนขับเคลื่อนองค์กรเพื่อให้ธุรกิจสามารถบรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งไว้
  • สร้างความแตกต่างและความได้เปรียบในการแข่งขัน
  ผู้ถือหุ้น, นักลงทุน, พนักงาน
  • Management Approach (3-1, 3-2, 3-3)
  • Collective bargaining agreements (2-30)
  • Training and Education (404-1, 404-2, 404-3)
  • Diversity and Equal Opportunity (405-1, 405-2)
  • Freedom of association and collective bargaining (407-1)
 
  • พนักงานเกิดความก้าวหน้าในอาชีพ มีสุขภาวะและสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงาน
  • ช่วยลดปัญหาอัตราการลาออกของพนักงานที่สูง
  • อาจเกิดปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะสูงหากไม่มีการพัฒนาบุคลากรที่เพียงพอ
คู่ค้า, พนักงาน
Fundamental Material Issue
การพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน
  • เสริมสร้างภาพลักษณ์และชื่อเสียงของแบรนด์ ผ่านการมีส่วนร่วมอย่างมีความหมายต่อความเป็นอยู่ที่ดีของสังคม
  • ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชนรอบข้าง ด้วยการพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน
  • การมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรม CSR ช่วยพัฒนาทักษะ สอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัท และสร้างความเป็นเจ้าของและความผูกพันต่อองค์กร
สังคมและชุมชน, พนักงาน, ผู้ถือหุ้น
  • Management Approach (3-1, 3-2, 3-3)
  • Local Communities (413-1, 413-2)
ความมั่นคงด้านเสถียรภาพและความพร้อมของการดำเนินการผลิต
  • เสริมสร้างความเชื่อมั่นของลูกค้า ซึ่งส่งผลต่อผลการดำเนินงานของ GPSC อย่างต่อเนื่อง
  ผู้ถือหุ้น, นักลงทุน, ลูกค้า, พนักงาน
  • Management Approach (3-1, 3-2, 3-3)
  • System Efficiency (EU-1, EU-2, EU-11)
  • Demand Side Management (EU-10)
  • Availability and Reliability (EU-28, EU-29, EU-30)
  • สร้างความเชื่อมั่น นำไปสู่การร่วมกันสร้างคุณค่าทางธุรกิจ
  • ส่งเสริมเสถียรภาพทางการตลาดให้กับคู่ค้า
  • ลดต้นทุนด้านพลังงานและเสริมสร้างความไว้วางใจจากผู้มีส่วนได้เสีย
  • ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
  • รับประกันการให้บริการที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและชุมชน
  หุ้นส่วน, คู่ค้า
ความหลากหลายทางชีวภาพ
  • ปกป้องระบบนิเวศ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนท้องถิ่นและคนรุ่นต่อไป
  • เสริมสร้างชื่อเสียงในหมู่ผู้มีส่วนได้เสีย ผ่านความพยายามด้านการอนุรักษ์
ผู้ถือหุ้น, นักลงทุน, ภาครัฐ, สังคมและชุมชน
  • Management Approach (3-1, 3-2, 3-3)
  • Biodiversity (304-1, 304-2, 304-3, 304-4)
อาชีวอนามัยและความปลอดภัย
  • ดูแลความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน ลดอุบัติเหตุในสถานที่ทำงาน และสร้างความไว้วางใจ
  • ส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและเปิดกว้าง เพื่อประโยชน์ต่อสังคมและชุมชนท้องถิ่น
  • ลดความเสี่ยงต่อสิ่งแวดล้อมผ่านการดำเนินงานที่ปลอดภัยมากขึ้น
  คู่ค้า, พนักงาน, สังคมและชุมชน
  • Management Approach (3-1, 3-2, 3-3)
  • Occupational Health and Safety (403-1, 403-2, 403-3, 403-4, 403-5, 403-6, 403-7, 403-9, 403-10, EU-25)
การจัดการห่วงโซ่อุปทาน
  • ส่งผลต่อผลประกอบการและความต่อเนื่องในการดำเนินงานของ GPSC
  • ส่งผลต่อภาพลักษณ์องค์กร
  • การจัดหาวัตถุดิบอย่างมีจริยธรรมและความโปร่งใส ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า นักลงทุน และหุ้นส่วน
  • ส่งเสริมการปฏิบัติด้านแรงงานอย่างเป็นธรรม สร้างประโยชน์ต่อชุมชนและหน่วยงานกำกับดูแล
ผู้ถือหุ้น, นักลงทุน, คู่ค้า
  • Management Approach (3-1, 3-2, 3-3)
  • Health and Safety for Contractor and Subcontractor Employees (EU-17, EU-18)
ก้าวสู่ความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม
  • ป้องกันผลกระทบจากผู้ประกอบการรายใหม่ (Disruption) และเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินงาน
  • เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมที่หุ้นส่วนสามารถนำไปศึกษาและต่อยอดได้
  • ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรมที่ยั่งยืน เสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าและนักลงทุน
  • ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน และตอบสนองความต้องการของตลาด
ผู้ถือหุ้น, นักลงทุน, หุ้นส่วน, ลูกค้า, พนักงาน
  • Management Approach (3-1, 3-2, 3-3)
  • เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
  • เพิ่มประสิทธิภาพของพนักงาน และเปิดโอกาสให้พัฒนาทักษะตามความสนใจ
  • เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ช่วยลดภาระงานของพนักงานได้
  พนักงาน
  • ส่งผลต่อผลการดำเนินงานผ่านการพัฒนาและจัดหานวัตกรรมที่จะช่วยยกระดับผลิตภัณฑ์และบริการของ GPSC ในอนาคต
  • การนำเสนอนวัตกรรมที่ดำเนินการไม่ดี อาจส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม และทำให้ความจงรักภักดีของผู้บริโภคลดลง รวมถึงกระทบต่อการเติบโตของรายได้จากธุรกิจนวัตกรรม
  ผู้ถือหุ้น, นักลงทุน
การบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า
  • สร้างความน่าเชื่อถือให้กับองค์กร
  • รักษาความต่อเนื่องในการดำเนินงาน
  • ส่งผลต่อภาพลักษณ์ขององค์กร
  • ดำเนินมาตรการเชิงรุกในการรักษาและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า
หุ้นส่วน, ลูกค้า
  • Management Approach (3-1, 3-2, 3-3)
ความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศและไซเบอร์
  • ปกป้องข้อมูล เพื่อรักษาความไว้วางใจจากลูกค้า พนักงาน และนักลงทุน
  • ปฏิบัติตามกฎหมายความเป็นส่วนตัว เพิ่มความเชื่อมั่นจากผู้มีส่วนได้เสีย
  • การจัดการเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยฟื้นฟูความไว้วางใจ
  • การรั่วไหลของข้อมูลทำให้ลูกค้าและพนักงานสูญเสียความไว้วางใจ และก่อให้เกิดความเสียหายทางการเงินจากคดีความ
  • การรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ที่ไม่สม่ำเสมอ ทำให้สูญเสียความเชื่อมั่นจากนักลงทุนและประชาชนทั่วไป
หุ้นส่วน, ลูกค้า, พนักงาน, คู่ค้า
  • Management Approach (3-1, 3-2, 3-3)
  • Customer Privacy (418-1)

หมายเหตุ:

(1) ผลกระทบในแต่ละประเด็นสำคัญฯ ทั้งที่เกิดขึ้นแล้วในอดีตแล้วปัจจุบันและที่มีโอกาสเกิดขึ้นในอนาคต สามารถพิจารณาได้ทั้งในเชิงบวกและลบ

(2) ผลกระทบด้านการเงินต่อบริษัท จัดเรียงตามจำนวนจุดสีฟ้าที่ปรากฏในตาราง แบ่งเป็น 4 กลุ่ม:

  • 4 จุดสีฟ้า หมายถึง ผลกระทบหรือโอกาสจากประเด็นสำคัญดังกล่าวในด้านการเงินในระดับ “สูงมาก”
  • 3 จุดสีฟ้า หมายถึง ผลกระทบหรือโอกาสจากประเด็นสำคัญดังกล่าวในด้านการเงินในระดับ “สูง”
  • 2 จุดสีฟ้า หมายถึง ผลกระทบหรือโอกาสจากประเด็นสำคัญดังกล่าวในด้านการเงินในระดับ “ปานกลาง”
  • 1 จุดสีฟ้า หมายถึง ผลกระทบหรือโอกาสจากประเด็นสำคัญดังกล่าวในด้านการเงินในระดับ “ต่ำ”
เป้าหมายและค่าตอบแทนผู้บริหารที่เกี่ยวข้องกับประเด็นหลักด้านความยั่งยืน

จีพีเอสซีตั้งเป้าหมายที่สัมพันธ์กับประเด็นหลักด้านความยั่งยืนเพื่อขับเคลื่อนผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนอย่างมีประสิทธิผลในระยะยาว เป้าหมายเหล่านี้แบ่งตามกรอบเวลาสามระยะ ได้แก่ เป้าหมายประจำปี ระยะสั้น และระยะยาว ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเหล่านี้และคงระดับผลการดำเนินการไว้ได้ จีพีเอสซีได้มอบหมายให้พนักงานของบริษัท ตั้งแต่ระดับผู้บริหารจนถึงระดับพนักงาน มีหน้าที่บริหารจัดการประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนในรูปแบบตัวชี้วัดผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicator: KPI) ซึ่งสัมพันธ์กับการประเมินผลการดำเนินงานประจำปีด้วย ทั้งนี้ การปฏิบัติงานได้ตามตัวชี้วัดผลการดำเนินงานนี้จะถูกนำไปใช้พิจารณาค่าตอบแทนของผู้บริหารที่เกี่ยวข้องด้วย

การนำตัวชี้วัดผลการดำเนินงานมาใช้การพิจารณาค่าตอบแทนเช่นนี้จะช่วยให้มั่นใจว่า ความมุ่งมาดปรารถนาของบริษัทและเป้าหมายดังกล่าวแทรกซึมอยู่ในการดำเนินงานของทั้งบริษัท และผู้บริหารจะมีส่วนรับผิดชอบต่อการบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ ดังแสดงในตารางต่อไปนี้

ประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน เป้าหมายปี พ.ศ. 2567 เป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว ประเภทสิ่งตอบแทนจูงใจ ตัวชี้วัดผลการดำเนินงานที่ผูกโยงกับสิ่งตอบแทนจูงใจสำหรับผู้บริหาร
พลังงานสะอาดสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
  • ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยตรงและทางอ้อม (ขอบเขตที่ 1 และ 2) ไม่เกิน 11,099,049.51 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2e)
  • ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมอื่น ๆ (ขอบเขตที่ 3) ไม่เกิน 1,474,526.87 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2e)
  • เพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนให้เกินร้อยละ 50 ภายในปีพ.ศ. 2573
  • ลดความเข้มข้นการปล่อยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 10 และ 35 ภายในปีพ.ศ. 2568 and 2573 (เทียบกับปีฐาน พ.ศ. 2563)
  • สร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปีพ.ศ. 2593 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเหลือศูนย์ภายในปีพ.ศ. 2603
  • ลดการตัดไม้ทำลายป่าสุทธิเหลือศูนย์ภายในปีพ.ศ. 2568
สิ่งตอบแทนจูงใจที่เป็นตัวเงิน
  • ค่าประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจ (ความเข้มข้นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในหน่วยตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า/เมกะวัตต์ชั่วโมง และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในหน่วยตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า/ปี)
  • ปริมาณเมกะวัตต์ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้น
การขับเคลื่อนสู่ตลาดความยั่งยืนแห่งอนาคต

การผลิตพลังงานอย่างยั่งยืน

  • พอร์ตการลงทุนที่มาจากพลังงานทดแทนมากกว่า 50% ภายในปี 2030

การพัฒนานวัตกรรมและโอกาสทางธุรกิจใหม่

  • พัฒนาการลงทุนในนวัตกรรม S-Curve ใหม่
  • ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการผลิตพลังงานแบบกระจาย ระบบปรับอากาศแบบรวมศูนย์ และบริการจัดการพลังงาน ภายใต้แนวคิดนวัตกรรมพลังงานเพื่อธุรกิจ
  • เสริมสร้างความร่วมมือในเทคโนโลยีพลังงานสะอาด โดยเน้นการผลิตไฟฟ้าที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ผ่านการรวมระบบพลังงานจากแสงอาทิตย์ ลม และระบบกักเก็บพลังงาน (ESS)
  • เน้นการลงทุนทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและเป้าหมายพลังงานทดแทนตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2567 และนโยบายที่เกี่ยวข้อง
  • มองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่โดยพัฒนาบริการพลังงานครบวงจร โดยเน้นแพลตฟอร์มการจัดการพลังงานแบบบูรณาการและระบบอัจฉริยะ
  • สำรวจทางเลือกพลังงานพื้นฐานที่เชื่อถือได้ เช่น การดักจับและกักเก็บคาร์บอน (CCS) ไฮโดรเจน และเครื่องปฏิกรณ์ขนาดเล็กแบบโมดูลาร์ (SMRs) เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มพลังงานในอนาคต
สิ่งตอบแทนจูงใจที่เป็นตัวเงิน
  • การปรับปรุงสัญญาทางธุรกิจและ/หรือรูปแบบธุรกิจสีเขียว
  • การเติบโตของกำลังผลิตไฟฟ้า (หน่วยเมกะวัตต์ตามสัดส่วนการถือหุ้น) จากการลงทุนใหม่ (แพลตฟอร์มหรือหุ้นส่วน)
  • การพัฒนาธุรกิจใหม่หรือการลงทุนใหม่ตามกลยุทธ์ธุรกิจ S3 S-Curve และแบตเตอรี่ รวมถึง S4 การเปลี่ยนแปลงสู่โซลูชันที่เน้นลูกค้า เป็นที่อนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทแล้ว
พนักงานคือหัวใจขององค์กร
  • การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ : พนักงานทุกคนได้รับการฝึกอบรม 100%
  • การดึงดูดและรักษาคนเก่ง : อัตราการลาออกต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม และระดับความผูกพันของพนักงานในกลุ่มคนเก่งเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 3% เมื่อเทียบกับปี 2023
  • ความหลากหลาย ความเสมอภาค และการมีส่วนร่วม : อัตราส่วนเงินเดือนระหว่างเพศยังคงมีเสถียรภาพหรือใกล้เคียงกับ 1:1
  • พัฒนาศักยภาพพนักงานอย่างต่อเนื่องผ่านการเรียนรู้ใหม่ การเพิ่มทักษะ และโปรแกรมการเรียนรู้สมัยใหม่ในด้านต่าง ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ ระบบอัตโนมัติ และพลังงานทดแทน
  • เสริมสร้างทักษะความเป็นผู้นำ และส่งเสริมการถ่ายทอดความรู้ผ่านการให้คำปรึกษาจากผู้บริหาร เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับความต้องการขององค์กรในอนาคต
  • เสริมสร้างการดึงดูดและรักษาคนเก่งด้วยการสรรหาบุคลากรโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ การสร้างแบรนด์นายจ้างที่แข็งแกร่งขึ้น และการพัฒนาประสบการณ์ของผู้สมัครงาน
  • สนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานด้วยรูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่นและสวัสดิการที่ครอบคลุม เพื่อสร้างความผูกพันและความพึงพอใจในระยะยาว
สิ่งตอบแทนจูงใจที่เป็นตัวเงิน
  • การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
  • ความหลากหลาย ความเสมอภาค และการมีส่วนร่วม
มูลค่าผลกระทบภายนอกจากกิจกรรมของบริษัทฯ

ผลกระทบด้านที่ 1 - ความเสี่ยงด้านการเปลี่ยนแปลงเพื่อรับมือกับสภาพภูมิอากาศและความเสี่ยงเชิงกายภาพ จากประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน “พลังงานสะอาดสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์”

สาเหตุของผลกระทบ - ผลกระทบมาจากการดำเนินการในห่วงโซ่คุณค่าธุรกิจ ครอบคลุมกิจกรรมทางธุรกิจกว่าร้อยละ 50

มิติผลกระทบที่ประเมิน – มิติสิ่งแวดล้อมและสังคม

ประเภทผลกระทบที่ประเมิน – ผลกระทบเชิงบวก

คำอธิบาย

GPSC ได้ประเมินผลกระทบเนื่องจากประเด็นนี้มีความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม เนื่องจากเป็นเรื่องที่ทั่วโลกให้ความสนใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และยังมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการดำเนินงานของ GPSC ที่ปัจจุบันใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้า GPSC ในฐานะผู้ผลิตไฟฟ้าและผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายสำคัญ จึงถือว่าการเปลี่ยนไปสู่พลังงานสะอาดเพื่อลดการปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์เป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญขององค์กร GPSC ได้กำหนดทิศทางธุรกิจเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายสุทธิเป็นศูนย์ โดยกระบวนการทั้งหมดในการบรรลุเป้าหมายนี้ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของพนักงานเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศของ GPSC ได้แก่ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทนในประเทศ และการบรรลุข้อผูกพันตามแผนที่ประเทศกำหนดทั้งในระดับชาติและระดับไซต์ อุตสาหกรรม GPSC ในฐานะผู้ให้พลังงานถือเป็นผู้เล่นสำคัญที่มีส่วนช่วยบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ด้วยการจัดหาพลังงานและผลิตภัณฑ์ที่มีคาร์บอนต่ำ GPSC ได้ดำเนินกิจกรรมหลายด้านเพื่อป้องกันและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในหลากหลายวิธี นอกจากนี้ GPSC ยังสนับสนุนเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศของประเทศ เข้าร่วมและสนับสนุนเครือข่ายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศภายนอก เพื่อส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจและแนวปฏิบัติที่ลดคาร์บอน GPSC กำลังมุ่งธุรกิจไปสู่การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พลังงานสะอาด และมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ซึ่งอาจเปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ในด้านที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญทางเทคนิคหรือทรัพยากรเฉพาะด้าน การประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมเหล่านี้จึงมีความสำคัญเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจ การติดตามความก้าวหน้า การวางแผนกลยุทธ์ รวมถึงประเมินว่าบริษัทสามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมได้มากน้อยเพียงใด ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้ภาคส่วนภายนอกเข้าร่วมและแบ่งปันเสนอแนวทาง กิจกรรมหรือแนวปฏิบัติที่ลดคาร์บอนร่วมกับบริษัทต่อไป

ผลกระทบภายนอก

ผลกระทบภายนอกด้านสิ่งแวดล้อม

ประเภทผลกระทบ มาตรวัดผลกระทบ
(การวัดมูลค่าผลกระทบ)
ผลกระทบ ผลกระทบที่ประเมินในปี 2567 เอกสารอ้างอิง
เชิงบวก การหลีกเลี่ยงการ
ปล่อยก๊าซเรือนกระจก*
(มูลค่าทางสิ่งแวดล้อมที่สูญเสีย/ ได้รับ)
การหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซเรือนกระจก* ก๊าซเรือนกระจกจากการผลิตพลังงานด้วยเชื้อเพลิงฟอสซิลที่หลีกเลี่ยงได้: 4,203,751.71 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า IRIS, 2021. Greenhouse Gas Emissions Avoided (PI2764). v5.2.
เชิงบวก การหลีกเลี่ยงการปล่อย NOx
(มูลค่าทางสิ่งแวดล้อมที่สูญเสีย/ ได้รับ)
การหลีกเลี่ยงการปล่อย NOx NOx จากการผลิตพลังงานด้วยเชื้อเพลิงฟอสซิลหลีกเลี่ยงได้: 4,864.884 ตัน N/A
เชิงบวก การหลีกเลี่ยงการปล่อย SOx
(มูลค่าทางสิ่งแวดล้อมที่สูญเสีย/ ได้รับ)
การหลีกเลี่ยงการปล่อย SOx SOx จากการผลิตพลังงานด้วยเชื้อเพลิงฟอสซิลที่หลีกเลี่ยงได้: 1,696.108 ตัน N/A
เชิงบวก การหลีกเลี่ยงการปล่อยฝุ่น
(มูลค่าทางสิ่งแวดล้อมที่สูญเสีย/ ได้รับ)
การหลีกเลี่ยงการปล่อยฝุ่น ฝุ่นที่หลีกเลี่ยงได้จากการผลิตพลังงานด้วยเชื้อเพลิงฟอสซิล: 228.981 ตัน N/A

หมายเหตุ: * มาตรวัดปริมาณ หมายถึง มาตรวัดผลการดำเนินการที่อยู่ในรายการของมาตรฐานการรายงานผลกระทบและการลงทุน (Impact Reporting & Investment Standards: IRIS) และได้รับการยอมรับว่าเป็นแนวปฏิบัติที่ดีในการกำหนดเป้าผลผลิตเพื่อใช้วัดความสำเร็จด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม

ผลกระทบภายนอกด้านสังคม

ประเภทผลกระทบ มาตรวัดผลกระทบ
(การวัดมูลค่าผลกระทบ)
ผลกระทบ ผลกระทบที่ประเมินในปี 2567 เอกสารอ้างอิง
เชิงบวก ต้นทุนทางสังคมที่สร้าง/หลีกเลี่ยงได้
(ต้นทุนทางสังคมของคาร์บอน)
ต้นทุนทางสังคมของคาร์บอน ต้นทุนทางสังคมจากการลดคาร์บอน
อันเนื่องมาจากผลกระทบด้านสุขภาพของผู้คน
ลดลงจากการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก: 244,602.6 ดอลลาร์สหรัฐฯ*
IRIS, 2021. Social Impact
Objectives (OD6247).
v5.2.

หมายเหตุ: * ต้นทุนทางสังคมของคาร์บอน (Social cost of carbon: SCC) หมายถึง ความเสียหายทางสังคมส่วนเพิ่มจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 1 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ณ เวลาหนึ่งๆ (มีหน่วยคือ เงิน/ จำนวนการเสียชีวิตแต่ละรายที่เพิ่มขึ้นมา) ต้นทุนทางสังคมของคาร์บอนระบุได้ด้วยการใช้ต้นทุนจากการเสียชีวิตเนื่องด้วยคาร์บอน (Mortality cost of carbon: MCC) (มีหน่วยคือ ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าของก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมา/ จำนวนการเสียชีวิตแต่ละรายที่เพิ่มขึ้นมา). (Bressler, R.D. The mortality cost of carbon. Nat Commun 12, 4467 (2021). https://doi.org/10.1038/s41467-021-24487-w)

ผลกระทบที่ 2 - การจัดการนวัตกรรมจากประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน "การขับเคลื่อนสู่ตลาดความยั่งยืนแห่งอนาคต"

สาเหตุของผลกระทบ – ผลกระทบมาจากสินค้า/บริการและห่วงโซ่อุปทานในห่วงโซ่คุณค่าธุรกิจ ครอบคลุมกิจกรรมทางธุรกิจกว่าร้อยละ 50

มิติผลกระทบที่ประเมิน – Environment and consumers/ end-users

ประเภทผลกระทบที่ประเมิน – ผลกระทบเชิงบวก

คำอธิบาย

GPSC ได้ประเมินผลกระทบเนื่องจากประเด็นนี้มีความสำคัญต่อผู้บริโภค/ผู้ใช้งานปลายทางที่จะได้รับประโยชน์จากระบบกักเก็บพลังงานแบบนวัตกรรมใหม่ (ESS) หรือแบตเตอรี่ ซึ่ง GPSC ให้ความสำคัญและถือเป็นโอกาสทางธุรกิจในรูปแบบ S-curve ใหม่ ด้วยแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของรถยนต์ไฟฟ้า พลังงานทดแทน และการใช้ไฟฟ้าอย่างแพร่หลาย โดยที่ ESS มีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศพลังงาน GPSC จึงได้ดำเนินกิจกรรมหลายด้านเพื่อเร่งการพัฒนา นั่นคือการวิจัยและพัฒนา ESS การพัฒนาโครงการนำร่องการผลิต และการนำไปประยุกต์ใช้กับพันธมิตรและลูกค้า ตามที่ได้กล่าวถึงประโยชน์ข้างต้น จากข้อได้เปรียบของนวัตกรรมใหม่นี้ เช่น อายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น การใช้วัสดุและสารเคมีที่ลดลง และความเสี่ยงต่ำต่อการลัดวงจร ผู้บริโภค/ผู้ใช้งานปลายทางจะได้รับประโยชน์ในแง่ของการประหยัดค่าไฟฟ้าจากการใช้แบตเตอรี่กักเก็บพลังงานที่ผลิตเอง ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นคงและความยืดหยุ่นของพลังงานได้มากขึ้น

ผลกระทบภายนอก

ผลกระทบภายนอกด้านสิ่งแวดล้อม

ประเภทผลกระทบ มาตรวัดผลกระทบ
(การวัดมูลค่าผลกระทบ)
ผลกระทบที่ประเมินในปี 2567 เอกสารอ้างอิง
เชิงบวก การหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซเรือนกระจก*
(มูลค่าทางสิ่งแวดล้อมที่สูญเสีย/ ได้รับ)
ก๊าซเรือนกระจกจากการผลิตพลังงานด้วยเชื้อเพลิงฟอสซิลที่หลีกเลี่ยงได้: 9,437.82 tCO2e IRIS, 2021. Greenhouse Gas Emissions Avoided (PI2764). v5.2.
เชิงบวก พลังงานทดแทนที่ผลิตได้ (หน่วยเมกะวัตต์ชั่วโมง) พลังงานทดแทนที่ผลิตได้: 20,080.48 เมกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี IRIS, 2021. Energy Generated for Use: Renewable (OI2496). v5.3.

หมายเหตุ: * มาตรวัดปริมาณ หมายถึง มาตรวัดผลการดำเนินการที่อยู่ในรายการของมาตรฐานการรายงานผลกระทบและการลงทุน (Impact Reporting & Investment Standards: IRIS) และได้รับการยอมรับว่าเป็นแนวปฏิบัติที่ดีในการกำหนดเป้าผลผลิตเพื่อใช้วัดความสำเร็จด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม

ผลกระทบภายนอกด้านสังคม

ประเภทผลกระทบ การประเมินมูลค่าผลกระทบ
(การวัดมูลค่าผลกระทบ)
ผลกระทบ ผลกระทบที่ประเมินในปี 2567 เอกสารอ้างอิง
เชิงบวก ลูกค้าประหยัดต้นทุนจากการซื้อพลังงานจากแหล่งภายนอก (อื่นๆ) ต้นทุนที่ลูกค้าประหยัดได้
จากการซื้อพลังงานจากแหล่งภายนอก
ต้นทุนที่ลูกค้าประหยัดได้จากการซื้อพลังงานจากแหล่งภายนอก: 1,827,137.56 ดอลลาร์สหรัฐฯ /ปี* N/A
เชิงบวก ต้นทุนทางสังคมของคาร์บอน
(ต้นทุนทางสังคมที่สร้าง/หลีกเลี่ยงได้)
ต้นทุนทางสังคมของคาร์บอน ต้นทุนทางสังคมของคาร์บอนที่ลดลงจากการผลิตพลังงานทดแทน: 549.16 เหรียญสหรัฐต่อปี** IRIS, 2021. Social Impact Objectives (OD6247). v5.2.

หมายเหตุ:

* มูลค่านี้คำนวณจากอัตราค่าไฟฟ้าที่ใช้งาน คือ 3,109.7 บาท/เมกะวัตต์ชั่วโมง (อัตราค่าไฟฟ้าของธุรกิจขนาดกลาง การไฟฟ้านครหลวง, https://www.mea.or.th/profile/109/113 ) และอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยของปี 2565 คือ35.0316 บาท/ ดอลลาร์สหรัฐฯ (เว็บไซต์ Exchange Rates UK, https://www.exchangerates.org.uk/USD-THB-spot-exchange-rates-history-2022.html). สมมติฐานที่ใช้ คือ ต้นทุนพลังงานที่ประหยัดได้เท่ากับต้นทุนพลังงานจากการไฟฟ้าแห่งประเทศไทยที่ทดแทนด้วยพลังงานที่ผลิตเองที่กักเก็บด้วยผลิตภัณฑ์ของจีพีเอสซี (แบตเตอรี่)

** ต้นทุนทางสังคมของคาร์บอน (Social cost of carbon: SCC) หมายถึง ความเสียหายทางสังคมส่วนเพิ่มจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 1 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ณ เวลาหนึ่งๆ (มีหน่วยคือ เงิน/ จำนวนการเสียชีวิตแต่ละรายที่เพิ่มขึ้นมา) ต้นทุนทางสังคมของคาร์บอนระบุได้ด้วยการใช้ต้นทุนจากการเสียชีวิตเนื่องด้วยคาร์บอน (Mortality cost of carbon: MCC) (มีหน่วยคือ ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าของก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมา/ จำนวนการเสียชีวิตแต่ละรายที่เพิ่มขึ้นมา). (Bressler, R.D. The mortality cost of carbon. Nat Commun 12, 4467 (2021). https://doi.org/10.1038/s41467-021-24487-w )

ปรับปรุง ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2568

เนื้อหาข้างต้นจัดทำตามมาตรฐานการรายงานความยั่งยืน โดย The Global Reporting Initiative (GRI Standards) ได้รับการตรวจสอบความถูกต้องโดยหน่วยงานภายนอกและให้ความเชื่อมั่นข้อมูลการรายงานในระดับจำกัด (Limited Assurance)