• หน้าหลัก
  • ข้อมูลส่วนบุคคล
  • แจ้งเบาะแสการทุจริต
  • การจัดซื้อจัดจ้าง
  • ติดต่อเรา
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับเรา

    GLOBAL BEST PRACTICE IN POWER BUSINESS

    • ข้อมูลบริษัท
      • วิสัยทัศน์ และพันธกิจ
      • คุณค่าขององค์กร
    • เหตุการณ์สำคัญ
    • สัญลักษณ์
    • โครงสร้างการถือหุ้น
    • โครงสร้างการจัดการ
      • โครงสร้างองค์กร
      • คณะกรรมการบริษัท
      • คณะกรรมการตรวจสอบ
      • คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน
      • คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง
      • คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการและความยั่งยืน
      • คณะผู้บริหาร
    • บริษัทย่อย และบริษัทในเครือ
    • รางวัลแห่งความภูมิใจ
    • รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม
    วิสัยทัศน์ และพันธกิจ
    คณะกรรมการบริษัท
  • ธุรกิจของเรา

    GLOBAL BEST PRACTICE IN POWER BUSINESS

    • โครงสร้างกลุ่มธุรกิจ
    • โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม / โคเจนเนอเรชั่น / พลังความร้อน
    • โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน
    • ธุรกิจเกี่ยวเนื่องและอื่น ๆ
  • การพัฒนาที่ยั่งยืน

    GLOBAL BEST PRACTICE IN POWER BUSINESS

    • รายงาน
      • รายงานความยั่งยืน
      • Sustainability Performance Data
    • จีพีเอสซี กับการพัฒนาที่ยั่งยืน
      • เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
      • การประเมินประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน
      • โครงสร้างการบริหารจัดการความยั่งยืน
      • กรอบการบริหารจัดการความยั่งยืน
    • เศรษฐกิจ
      • การกำกับดูแล, การบริหารความเสี่ยง และการปฏิบัติตามกฎข้อบังคับ
      • การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน
      • วิวัฒนาการธุรกิจพลังงานแห่งอนาคต
      • ความมั่นคงด้านเสถียรภาพและความพร้อมของการดำเนินการผลิต
      • การสนับสนุนต่อสมาคม / องค์กรทางธุรกิจต่างๆ
      • ความโปร่งใสด้านภาษี
    • สิ่งแวดล้อม
      • การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม
      • พลังงานสะอาดสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
      • ความหลากหลายทางชีวภาพ
    • สังคม
      • ความรับผิดชอบต่อสังคม
      • พนักงานคือหัวใจขององค์กร
      • สุขภาวะและความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมการทำงาน
      • สิทธิมนุษยชน
      • การบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า
    • การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย
    • นโยบาย
    การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย
    Stakeholder Engagement
    รายงานความยั่งยืน
    SD Report
  • นักลงทุนสัมพันธ์

    GLOBAL BEST PRACTICE IN POWER BUSINESS

    • หน้าหลักนักลงทุนสัมพันธ์
    • ข้อมูลทางการเงิน
      • ข้อมูลสำคัญทางการเงิน
      • งบการเงิน
      • คำอธิบายและการวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ
      • อันดับความน่าเชื่อถือ
    • ข้อมูลราคาหลักทรัพย์
      • ราคาหลักทรัพย์
      • ราคาย้อนหลัง
      • เครื่องคำนวณการลงทุน
    • ข้อมูลสำหรับผู้ถือหุ้น
      • ข้อมูลพื้นฐาน
      • รายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่
      • การประชุมผู้ถือหุ้น
      • ดาวน์โหลดเอกสารเพิ่มทุน (RO)
      • โครงการผู้ถือหุ้นเยี่ยมชมกิจการ
      • นโยบายและการจ่ายเงินปันผล
      • ปฏิทินนักลงทุนสัมพันธ์
    • ข้อมูลหุ้นกู้
      • ข้อมูลหุ้นกู้
      • ข้อมูลหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 1/2563
      • ข้อมูลหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 1/2565
    • ห้องข่าว
      • ข่าวแจ้งตลาดหลักทรัพย์
      • ข่าวแจ้งสื่อมวลชน
      • ข่าวจากสื่อสิ่งพิมพ์
    • ปฏิทินนักลงทุนสัมพันธ์
    • เอกสารนำเสนอและภาพวิดีโอบริษัท
    • ข้อมูลนักวิเคราะห์
      • ติดต่อนักวิเคราะห์
      • บทวิเคราะห์หลักทรัพย์
    • เอกสารเผยแพร่
      • 56-1 One Report / รายงานประจำปี
      • แบบฟอร์ม 56-1
      • Factsheet
      • หนังสือชี้ชวนเสนอขายหลักทรัพย์
      • ดาวน์โหลดเอกสารนักลงทุนสัมพันธ์
    • สอบถามข้อมูลและติดต่อนักลงทุนสัมพันธ์
      • ติดต่อนักลงทุนสัมพันธ์
      • อีเมล์รับข่าวสาร
      • คำถามที่พบบ่อย
    ราคาหลักทรัพย์
    งบการเงิน
  • ข่าวและกิจกรรม

    GLOBAL BEST PRACTICE IN POWER BUSINESS

    • ข่าวสาร
      • ข่าวประชาสัมพันธ์
      • ข่าวกิจกรรมเพื่อสังคม
    • วีดิทัศน์
      • วีดิทัศน์บริษัท
      • วีดิทัศน์โครงการ
      • สกู๊ปข่าว
      • พลังงานน่ารู้
    • เล่าเรื่องพลังงาน
  • การกำกับดูแลกิจการที่ดี

    GLOBAL BEST PRACTICE IN POWER BUSINESS

    • การกำกับดูแลกิจการที่ดี และจรรยาบรรณธุรกิจ
    • การตรวจสอบภายใน
    • แจ้งเบาะแสการทุจริต
    • ติดต่อเลขานุการบริษัท
    • คู่มือแนวทางการบริหารจัดการแบบกลุ่ม
  • ร่วมงานกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • ข้อมูลส่วนบุคคล
Font
A+
A
Dark mode Light mode
Quick links
แจ้งเบาะแสการทุจริต การจัดซื้อจัดจ้าง
ภาษา :
  • TH
  • EN
Recommended Searches
  • Energy forecast
  • Careers
  • Annual Report
  • Energy Storage System
Quick links
แจ้งเบาะแสการทุจริต การจัดซื้อจัดจ้าง
  • A+
    Increase Font
  • A
    Regular Font
  • Dark mode Light mode
  • EN
ย้อนกลับ

พลังงานสีเขียว (Green Energy) คืออะไร? สำคัญอย่างไรกับอนาคตของโลก

07 ต.ค. 2568

ในยุคที่โลกกำลังเผชิญกับปัญหาสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง “พลังงานสีเขียว” หรือ Green Energy ได้กลายเป็นหนึ่งในคำตอบสำคัญที่จะช่วยให้มนุษยชาติสามารถรักษาความสมดุลของธรรมชาติ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืนได้อย่างแท้จริง

พลังงานสีเขียวไม่ได้เป็นเพียงแนวคิดเชิงสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ของโลกยุคหลังฟอสซิล โดยเฉพาะในประเทศไทยที่เริ่มมีการบูรณาการ Green Energy เข้ากับแผนพัฒนาประเทศ ทั้งในด้านนโยบายพลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน และเป้าหมาย Net Zero Emissions

บทความนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับพลังงานสีเขียวอย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่ความหมาย หลักการทำงาน ประเภทของ Green Energy ไปจนถึงบทบาทสำคัญในนโยบาย Net Zero และทิศทางอนาคตของพลังงานสะอาดในประเทศไทยว่าเรากำลังมุ่งหน้าไปทางใด และเราจะมีส่วนร่วมในพลังงานแห่งอนาคตนี้ได้อย่างไรบ้าง

Green Energy หรือพลังงานสีเขียวคืออะไร

พลังงานสีเขียว หรือ Green Energy คือ พลังงานที่ได้มาจากแหล่งธรรมชาติที่ใช้แล้วไม่หมดไป เช่น แสงอาทิตย์ ลม น้ำ และชีวมวล ซึ่งสามารถนำมาใช้ผลิตไฟฟ้า ความร้อน หรือพลังงานอื่นๆ ได้โดยไม่ก่อให้เกิดมลพิษหรือผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แตกต่างจากพลังงานฟอสซิลที่มีการเผาไหม้และปล่อยก๊าซเรือนกระจก อันนำไปสู่การเกิดมลภาวะและทำให้เกิดภาวะโลกร้อน พลังงานสีเขียวจึงเป็นทางเลือกสำคัญในการลดปัญหาภาวะโลกร้อนและส่งเสริมความยั่งยืนของโลกในระยะยาวด้วยคุณสมบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและใช้ทรัพยากรที่สามารถทดแทนได้ พลังงานสีเขียวจึงได้รับความสนใจและการลงทุนอย่างมากจากทั่วโลกเพื่อสร้างระบบพลังงานที่สะอาด ปลอดภัย และมั่นคงสำหรับอนาคต

หลักการทำงานของพลังงานสีเขียว

พลังงานสีเขียว หรือ Green Energy ทำงานบนพื้นฐานของการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่หมุนเวียนได้อย่างยั่งยืน เช่น แสงอาทิตย์ ลม น้ำ และชีวมวล โดยมีเป้าหมายหลักคือการผลิตพลังงานอย่างสะอาด ปลอดภัย และไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หลักการทำงานสำคัญของพลังงานสีเขียวสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเด็นหลักดังนี้

  • ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

    พลังงานสีเขียวหรือ Green Energy เป็นพลังงานที่ไม่ต้องเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น ถ่านหิน น้ำมัน หรือก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นแหล่งปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน การผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ ลม หรือน้ำ จึงช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยสู่บรรยากาศ ทำให้ลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมสภาพภูมิอากาศที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงด้านสุขภาพจากมลพิษทางอากาศที่เกี่ยวข้องกับการเผาไหม้เชื้อเพลิง

  • ไม่สร้างมลพิษทางอากาศ, น้ำ, ดิน

    การผลิตพลังงานสีเขียวแทบไม่ก่อให้เกิดสารพิษหรือของเสียที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ต่างจากพลังงานฟอสซิลที่อาจปล่อยสารพิษ เช่น ฝุ่นละออง สารพิษในน้ำเสีย หรือสารเคมีตกค้างที่ทำลายระบบนิเวศ ระบบ Green Energy จึงช่วยรักษาคุณภาพอากาศ น้ำ และดินให้อยู่ในสภาพดี ลดการปนเปื้อนและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับสัตว์และพืชในบริเวณใกล้เคียง

  • รักษาสมดุลของระบบนิเวศ

    การใช้พลังงานจากแหล่งธรรมชาติที่หมุนเวียนได้และไม่ทำลายถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์และพืชช่วยรักษาความหลากหลายทางชีวภาพและความสมดุลของระบบนิเวศ เช่น กังหันลมที่ติดตั้งในพื้นที่ที่เหมาะสมโดยไม่รบกวนการบินของนก หรือโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งบนหลังคาโดยไม่ทำลายพื้นที่สีเขียว ส่งผลให้ระบบนิเวศสามารถดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืนและลดความเสี่ยงของการสูญพันธุ์ของสัตว์และพืช

  • ส่งเสริมความยั่งยืนในระยะยาว

    เพราะพลังงานสีเขียวใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่หมุนเวียนได้ เช่น แสงอาทิตย์ที่ส่องมายังโลกทุกวัน ลมที่เคลื่อนที่อย่างต่อเนื่อง หรือน้ำที่หมุนเวียนตามวงจรธรรมชาติ จึงไม่ทำให้ทรัพยากรเหล่านี้หมดไปเหมือนเชื้อเพลิงฟอสซิล ทำให้มนุษย์สามารถผลิตและใช้พลังงานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ทำลายโลก การลงทุนและพัฒนาเทคโนโลยี Green Energy ยังช่วยให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดความสมดุลระหว่างความต้องการของมนุษย์และการรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน

ประเภทของพลังงานสีเขียว

พลังงานสีเขียวหมายถึงพลังงานที่ได้จากแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่หมุนเวียนได้และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยไม่ก่อให้เกิดมลพิษหรือผลกระทบทางลบต่อธรรมชาติ ประเภทหลักๆ ของพลังงานสีเขียวที่ถูกใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลกมีดังนี้

  • พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy)

    พลังงานแสงอาทิตย์เป็นการนำพลังงานจากแสงแดดมาแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าหรือความร้อนผ่านการใช้แผงโซลาร์เซลล์หรือระบบเก็บความร้อน พลังงานนี้ถือเป็นแหล่งพลังงานที่สะอาดและไม่มีวันหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีแสงแดดจัด เช่น ประเทศไทยที่มีศักยภาพสูงในการใช้พลังงานแสงอาทิตย์

  • พลังงานลม (Wind Energy)

    พลังงานลมเกิดจากการเคลื่อนที่ของอากาศ ซึ่งถูกจับผ่านกังหันลมเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า การผลิตพลังงานจากลมไม่ก่อให้เกิดมลพิษและใช้พื้นที่ไม่มาก ทำให้เป็นพลังงานสะอาดที่ได้รับความนิยมในหลายประเทศที่มีลมแรงและสม่ำเสมอ

  • พลังงานน้ำ (Hydropower)

    พลังงานน้ำหรือพลังงานไฟฟ้าพลังน้ำผลิตจากพลังงานของน้ำที่ไหล เช่น น้ำตก แม่น้ำ หรือเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำเป็นตัวอย่างที่ใช้กันทั่วไป พลังงานน้ำเป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อระบบนิเวศและชุมชนที่อยู่ใกล้เคียงด้วย

  • พลังงานชีวมวล (Biomass)

    พลังงานชีวมวลเป็นพลังงานที่ได้จากวัสดุอินทรีย์ เช่น เศษไม้ เศษพืชของเสียทางการเกษตร หรือของเสียจากสัตว์ โดยนำไปแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพหรือใช้ผลิตไฟฟ้าและความร้อน ถือเป็นการใช้ทรัพยากรที่หมุนเวียนและช่วยลดขยะได้ในเวลาเดียวกัน

  • พลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Energy)

    พลังงานความร้อนใต้พิภพใช้ความร้อนที่สะสมอยู่ใต้ผิวโลกมาผลิตไฟฟ้าหรือใช้ในระบบทำความร้อน พลังงานประเภทนี้เหมาะกับพื้นที่ที่มีความร้อนใต้พิภพสูง เช่น บริเวณภูเขาไฟหรือแหล่งน้ำร้อนธรรมชาติ โดยสามารถผลิตพลังงานได้ตลอดเวลาไม่ขึ้นกับสภาพอากาศ

ข้อดีและประโยชน์ของพลังงานสีเขียว

พลังงานสีเขียว หรือ Green Energy คือทางเลือกพลังงานที่กำลังได้รับความสนใจและขยายตัวอย่างรวดเร็วทั่วโลก ด้วยข้อดีและประโยชน์มากมายที่ช่วยส่งเสริมความยั่งยืน ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม ดังนี้

  1. ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

    การใช้พลังงานสีเขียวแทนพลังงานจากฟอสซิลช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกอื่น ๆ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของภาวะโลกร้อน ช่วยรักษาสภาพภูมิอากาศและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

  2. เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

    พลังงานสีเขียวไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ น้ำ หรือดิน จึงช่วยรักษาคุณภาพของสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ ทำให้สัตว์และพืชสามารถดำรงอยู่ได้อย่างสมดุลและปลอดภัย

  3. ช่วยลดต้นทุนพลังงานในระยะยาว

    แม้การติดตั้งระบบพลังงานสีเขียวอาจมีต้นทุนเริ่มต้นสูง แต่ในระยะยาวจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน เนื่องจากใช้แหล่งพลังงานธรรมชาติที่ไม่ต้องเสียค่าเชื้อเพลิง และมีอายุการใช้งานนาน

  4. ส่งเสริมความมั่นคงทางพลังงาน

    การพึ่งพาพลังงานสีเขียวช่วยลดการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ ทำให้ประเทศมีความมั่นคงทางพลังงานมากขึ้นและลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาพลังงานโลก

  5. สร้างงานและส่งเสริมเศรษฐกิจในพื้นที่

    การพัฒนาและติดตั้งระบบพลังงานสีเขียวสร้างโอกาสในการจ้างงาน ทั้งในด้านวิศวกรรม การก่อสร้าง และการบำรุงรักษา ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่นและส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน

  6. เพิ่มคุณภาพชีวิตและสุขภาพของประชาชน

    การลดมลพิษจากการใช้ Green Energy ช่วยลดโรคที่เกิดจากมลภาวะ เช่น โรคทางเดินหายใจ และโรคผิวหนัง ทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ทำไมพลังงานสีเขียวจึงมีความสำคัญต่อนโยบาย Net Zero ในปัจจุบัน

นโยบาย Net Zero หมายถึงการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศให้เหลือสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญที่ประเทศและองค์กรทั่วโลกกำลังมุ่งหวังเพื่อลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในการบรรลุเป้าหมายนี้ พลังงานสีเขียว หรือพลังงานสะอาดจึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

1. ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคพลังงาน

ภาคพลังงานเป็นแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกอันดับต้นๆ ของโลก เนื่องจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น ถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ ในการผลิตไฟฟ้าและความร้อน การเปลี่ยนไปใช้พลังงานสีเขียวที่มาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น แสงอาทิตย์ ลม และพลังงานน้ำ จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกอื่น ๆ อย่างมีนัยสำคัญ

2. สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านพลังงาน (Energy Transition)

พลังงานสีเขียวเป็นส่วนสำคัญของการเปลี่ยนผ่านพลังงานสู่ระบบที่สะอาดและยั่งยืน ช่วยลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ก่อให้เกิดมลพิษและลดความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ

3. ช่วยเพิ่มความมั่นคงทางพลังงานในระยะยาว

การลงทุนใน Green Energy ช่วยสร้างแหล่งพลังงานที่มั่นคงและต่อเนื่อง โดยไม่ต้องพึ่งพาการนำเข้าเชื้อเพลิงที่มีราคาผันผวน ทำให้ประเทศสามารถควบคุมแหล่งพลังงานของตนเองได้มากขึ้น

4. ส่งเสริมเทคโนโลยีสะอาดและนวัตกรรม

นโยบาย Net Zero ส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีสะอาด เช่น ระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage) และระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะ (Smart Grid) ซึ่งทำให้การใช้พลังงานสีเขียวมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและพร้อมใช้งานได้ในวงกว้าง

5. สร้างภาพลักษณ์และความรับผิดชอบต่อสังคม

องค์กรและประเทศที่ลงทุนใน Green Energy จะได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นจากนักลงทุน ผู้บริโภค และประชาคมโลก

แนวโน้มอนาคตของพลังงานสีเขียวในประเทศไทย

ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงในการพัฒนาพลังงานสีเขียว หรือ Green Energy เนื่องจากมีทรัพยากรธรรมชาติที่เหมาะสม เช่น แสงอาทิตย์ ลม และชีวมวล ซึ่งทำให้แนวโน้มอนาคตของพลังงานสีเขียวในประเทศมีความสดใสและมีโอกาสเติบโตอย่างรวดเร็วในหลายด้านดังนี้

• การสนับสนุนจากภาครัฐและนโยบายส่งเสริม

รัฐบาลไทยได้ออกมาตรการและนโยบายที่สนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง เช่น การส่งเสริมโครงการโซลาร์รูฟท็อป การเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนในระบบไฟฟ้าแห่งชาติ และการเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้าร่วมในโครงการพลังงานสีเขียวมากขึ้น สิ่งเหล่านี้ช่วยสร้างแรงจูงใจและลดอุปสรรคในการพัฒนา

• การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม

เทคโนโลยีพลังงานสีเขียวในประเทศไทยได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านแผงโซลาร์เซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ระบบกักเก็บพลังงาน (Battery Storage) และการบริหารจัดการพลังงานอัจฉริยะ (Smart Grid) ทำให้การผลิตและการใช้พลังงานสีเขียวมีประสิทธิภาพและเสถียรมากขึ้น

• การขยายตัวของตลาดพลังงานสีเขียว

ความต้องการใช้พลังงานสีเขียวจากภาคธุรกิจและประชาชนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ หรือครัวเรือนที่สนใจติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อลดค่าไฟฟ้า ตลาด Green Energy จึงมีแนวโน้มเติบโตและขยายตัวอย่างต่อเนื่องในอนาคต

• การเพิ่มบทบาทของผู้เล่นภาคเอกชนและชุมชน

นอกจากภาครัฐแล้ว ผู้เล่นภาคเอกชนและชุมชนท้องถิ่นมีบทบาทสำคัญในการผลักดันพลังงานสีเขียว เช่น การพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่ชนบท หรือการใช้ชีวมวลจากการเกษตรในระดับชุมชน ซึ่งช่วยกระจายการใช้พลังงานสะอาดและสร้างรายได้ให้กับชุมชน

• ความท้าทายและโอกาส

แม้จะมีแนวโน้มที่ดี แต่การพัฒนาพลังงานสีเขียวในประเทศไทยยังต้องเผชิญกับความท้าทาย เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม การบริหารจัดการพลังงานที่มีความผันผวน และข้อจำกัดทางเทคนิค อย่างไรก็ตาม โอกาสในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ด้วยนวัตกรรมและความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยก้าวสู่การใช้พลังงานสีเขียวอย่างเต็มศักยภาพ

สรุป

Green Energy หรือ พลังงานสีเขียวเป็นแหล่งพลังงานที่ได้จากธรรมชาติและสามารถหมุนเวียนใช้ได้อย่างไม่หมดสิ้น เช่น แสงอาทิตย์ ลม น้ำ และชีวมวล ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลักการทำงานของพลังงานสีเขียวมุ่งเน้นที่การผลิตพลังงานสะอาดโดยไม่สร้างมลพิษ รักษาสมดุลของระบบนิเวศ และส่งเสริมความยั่งยืนในระยะยาว โดยพลังงานสีเขียวมีข้อดีและประโยชน์มากมาย ทั้งลดภาวะโลกร้อน ลดมลพิษ ส่งเสริมความมั่นคงทางพลังงาน และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังเป็นหัวใจหลักในการบรรลุนโยบาย Net Zero ที่มุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ในประเทศไทยเอง แนวโน้มการพัฒนาพลังงานสีเขียวกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐ เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า และการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนและชุมชน ซึ่งช่วยขับเคลื่อนประเทศไปสู่ความยั่งยืนและอนาคตที่สะอาด ดังนั้น การลงทุนและส่งเสริมพลังงานสีเขียวจึงเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้โลกและประเทศไทยสามารถเติบโตอย่างสมดุล พร้อมรับมือกับความท้าทายในอนาคตอย่างมั่นคง

เปิดมุมมองสู่ Green Energy: เส้นทางพลังงานสะอาดของ GPSC

บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เป็นผู้นำด้านพลังงานที่มุ่งมั่นพัฒนาและส่งเสริมการใช้พลังงานสีเขียวอย่างต่อเนื่อง ภายใต้นโยบายและโครงการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมที่เข้มแข็ง ซึ่งสะท้อนถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง

GPSC มีเป้าหมายชัดเจนในการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาดในพอร์ตการผลิตไฟฟ้าของบริษัท เพื่อสนับสนุนนโยบายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และตอบโจทย์ความยั่งยืนของโลกยุคใหม่ โครงการต่างๆ ที่ GPSC ดำเนินการครอบคลุมทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานชีวมวล ซึ่งล้วนเป็นแหล่งพลังงานสีเขียวที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ

โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy) ของ GPSC

พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy) คือหนึ่งในกลยุทธ์หลักที่ GPSC ใช้ในการขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย Net Zero Emissions โดย GPSC ลงทุนและพัฒนาโครงการหลากหลายรูปแบบ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนในพอร์ตธุรกิจอย่างเป็นระบบ

พัฒนาในประเทศ: Floating Solar & Solar Rooftop

  • พัฒนา โครงการโซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar)
  • ส่งเสริม ระบบโซลาร์รูฟท็อปและ Smart Microgrid ทั้งในภาคอุตสาหกรรมและชุมชน เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นด้านพลังงาน พร้อมช่วยลดคาร์บอนฟุตพรินต์ให้ลูกค้า

ขยายสู่ต่างประเทศ: การลงทุนใน Avaada, อินเดีย

เพื่อขยายพลังงานสะอาดสู่ระดับสากล GPSC เข้าลงทุนในบริษัท Avaada Energy Private Limited (AEPL) การลงทุนใน Avaada ช่วยให้ GPSC เสริมความแข็งแกร่งของพอร์ตธุรกิจ พร้อมทั้งสร้างรายได้และความมั่นคงระยะยาวจากพลังงานสะอาด

โครงการพลังงานลม (Wind Energy) ของ GPSC

GPSC ลงทุนในโครงการพลังงานลมทั้งในไต้หวันและไทย โดยได้ร่วมทุนกับ Copenhagen Infrastructure Partners (CIP) พัฒนาโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่งในไต้หวัน และได้ร่วมจัดตั้งบริษัท วินด์ เพาเวอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เพื่อศึกษาโอกาสลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานลมภายในประเทศ เพื่อบรรลุเป้าหมายการเป็นผู้นำธุรกิจพลังงานลมในประเทศไทยและสนับสนุนเป้าหมาย Net Zero ของประเทศไทย

โครงการโรงไฟฟ้าจากเชื้อเพลิง RDF (Refuse-Derived Fuel) ของ GPSC

อีกหนึ่งแนวทางสำคัญที่ GPSC มุ่งพัฒนา คือการใช้เชื้อเพลิงขยะ (RDF) ซึ่งได้จากการคัดแยกและแปรรูปขยะมูลฝอยชุมชนมาเป็นเชื้อเพลิงทดแทน การลงทุนในโรงไฟฟ้า RDF ช่วยแก้ปัญหาขยะล้นในจังหวัดระยอง ลดการฝังกลบ และเปลี่ยนของเสียให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้าที่สะอาดขึ้น

โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ (Hydropower) ของ GPSC

พลังงานน้ำถือเป็นอีกหนึ่งเสาหลักในพอร์ตพลังงานสีเขียวของ GPSC โดยบริษัทได้ลงทุนในต่างประเทศ เพื่อใช้ศักยภาพของแหล่งน้ำที่มีอยู่ในการผลิตไฟฟ้าที่มีความเสถียร เช่น โรงไฟฟ้าน้ำลิก โรงไฟฟ้าห้วยเหาะ และโรงไฟฟ้าไซยะบุรี โรงไฟฟ้าพลังน้ำสามารถจ่ายไฟฟ้าได้ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพสูง ช่วยเสริมความมั่นคงให้กับโครงข่ายไฟฟ้า

นอกจากนี้ GPSC ยังมุ่งมั่นศึกษาและพัฒนานวัตกรรมพลังงานแห่งอนาคต (Future Energy) เพื่อตอบโจทย์การลดการคาร์บอนไดออกไซด์และสร้างความมั่นคงทางพลังงานระยะยาว เช่น

  • เทคโนโลยีไฮโดรเจนและแอมโมเนีย

    GPSC กำลังศึกษาเทคโนโลยีไฮโดรเจนและแอมโมเนีย โดยมีการร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก เช่น Doosan Enerbility จากเกาหลีใต้ เพื่อศึกษาและพัฒนาห่วงโซ่คุณค่าไฮโดรเจนครบวงจร ตั้งแต่การผลิต กักเก็บ จนถึงการนำไปใช้ในภาคอุตสาหกรรมและการผลิตไฟฟ้า

  • SMR (Small Modular Reactor)

    อีกหนึ่งเทคโนโลยีนิวเคลียร์รุ่นใหม่ที่กำลังได้รับความสนใจระดับโลก SMR มีข้อได้เปรียบคือขนาดเล็ก ปลอดภัย และสามารถติดตั้งใกล้พื้นที่ใช้งานได้ เหมาะกับการเป็นพลังงานสะอาดเสริมความมั่นคงระยะยาว GPSC อยู่ระหว่างการศึกษาแนวโน้มและศักยภาพในการประยุกต์ใช้กับประเทศไทย โดยมีการ ร่วมมือกับ Saltfoss Energy จากเดนมาร์ก ในการศึกษาการใช้ Compact Molten Salt Reactor (CMSR) ซึ่งเป็นนวัตกรรมรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพสูงในการผลิตไฟฟ้าแบบไร้มลพิษและปลอดภัย

  • CCS (Carbon Capture and Storage)

    เพื่อแก้ปัญหาคาร์บอนจากโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล GPSC ได้ร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก เช่น Axens Group ศึกษาเทคโนโลยีการดักจับและกักเก็บคาร์บอน ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระดับอุตสาหกรรม

ในด้านการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม GPSC มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพลังงาน และลดมลพิษ รวมทั้งการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ การลดของเสีย และการป้องกันผลกระทบต่อระบบนิเวศโดยรอบโครงการ นอกจากนี้ GPSC ยังมีการวางแผนและติดตามผลด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวด เพื่อให้แน่ใจว่าการดำเนินงานทั้งหมดเป็นไปตามมาตรฐานสากลและกฎหมายสิ่งแวดล้อม

ด้วยยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนและการลงทุนต่อเนื่องในพลังงานสะอาด GPSC ไม่ได้เป็นเพียงผู้ผลิตไฟฟ้า แต่ยังสร้าง ผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชน สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ พร้อมยกระดับความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศไปพร้อมกับการดูแลโลกใบนี้อย่างมีความรับผิดชอบ

แชร์ข่าวสารนี้:

555/2 ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ อาคาร B ชั้น 5 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

  • อีเมล: corporate@gpscgroup.com
  • โทรศัพท์: 0 2140 4600
  • โทรสาร: 0 2140 4601
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับเรา
  • ธุรกิจของเรา
  • การพัฒนาที่ยั่งยืน
  • นักลงทุนสัมพันธ์
  • ข่าวและกิจกรรม
  • การกำกับดูแลกิจการที่ดี
  • ร่วมงานกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • นโยบายการใช้คุกกี้
  • ข้อมูลส่วนบุคคล
  • Webmail
  • การจัดซื้อจัดจ้าง
  • GLOW
  • HHPC
  • CHPP
  • NUOVO PLUS

© สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2564 บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน)

  • แผนผังเว็บไซต์
ติดตามเรา