ความหลากหลายทางชีวภาพ

โครงการเพื่อลดผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ โดยบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) บริษัทฯ กำหนดไว้ในนโยบายคุณภาพ ความมั่นคง ปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นในการปกป้องและบริหารจัดการความหลากหลายทางชีวภาพ นอกจากนี้ บริษัทฯ มีเป้าหมายในการพิจารณาประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมทางด้านความหลากหลายทางชีวภาพในโครงการใหม่หรือโครงการที่ขยายกำลังการผลิตทุกโครงการ เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียต่อความหลากหลายทางชีวภาพ (No-Net-Loss)

การแสดงเจตจำนงด้านการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพบริษัทฯ
GRI 2-23
GRI 2-24
GRI 3-3

วัตถุประสงค์หลักของการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพคือการป้องกันความเสียหายและลดผลกระทบเชิงลบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ บริษัท จึงได้ประกาศคำแสดงเจตจำนงด้านการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพ กลุ่มบริษัทฯ ขึ้นในปี 2564 เพื่อเป็นหลักการในการดำเนินงานขั้นพื้นฐานสำหรับบริษัทฯ ให้มีแนวทางการดำเนินงานด้านความหลากหลายทางชีวภาพที่สอดคล้องกันทั่วทั้งองค์กร

คำแสดงเจตจำนงด้านการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพ กลุ่มบริษัทฯ
ขั้นตอนการดำเนินงานด้านความหลากหลายทางชีวภาพและบริการของระบบนิเวศ กลุ่ม GPSC
แนวทางการประเมินความเสี่ยงด้านความหลากหลายทางชีวภาพและบริการของระบบนิเวศ กลุ่ม GPSC
แนวทางบริหารจัดการความหลากหลายทางชีวภาพและบริหารของระบบนิเวศ กลุ่ม GPSC

แนวทางการบริหารจัดการด้านความหลากหลายทางชีวภาพ

ความมุ่งมั่นที่จะปกป้องและจัดการความหลากหลายทางชีวภาพ โดยกำหนดให้ไม่มีการดำเนินงานในพื้นที่ IUCN Category I-IV

ความมุ่งมั่นที่จะไม่ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อความหลากหลายทางชีวภาพ (No-Net-Loss) ภายใต้ขอบเขตที่สามารถจัดการได้

การศึกษารายงานวิเคราะห์ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมทั้งโครงการในและต่างประเทศ

การศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพสำหรับโครงการในต่างประเทศอย่างรัดกุมโดยการกำหนดแผนปฏิบัติงานและแผนการบริหารจัดการและการติดตามตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อม

มาตรการป้องกันและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามและตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม

คู่มือการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพและบริการของระบบนิเวศของกลุ่ม ปตท. (PTT Group Biodiversity and Ecosystem Services Management Procedure) ที่สอดคล้องกับหลักการ “Mitigation Hierarchy” (Avoid, Minimize, Restore and Offset) การบรรเทาผลกระทบอย่างมีลำดับขั้น เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบรุนแรงต่อความหลากหลายทางชีวภาพ

GRI 304-1
GRI 304-2
GRI 304-3
GRI 304-4

บริษัทฯ กำหนดให้มีดำเนินการจัดการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมทางด้านความหลากหลายทางชีวภาพในโครงการใหม่หรือโครงการที่ขยายกำลังการผลิตทุกโครงการ โดยการศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพจะต้องศึกษาครอบคลุมจำนวนและชนิด รวมถึงสภาพแวดล้อมการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตโดยรอบ มีการตรวจสอบชนิดพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ให้สอดคล้องกับกฎหมายของพื้นที่ที่ดำเนินโครงการ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 พระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. 2530 องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) เป็นต้น

แม้ว่าบริษัทฯ จะมีพื้นที่การดำเนินงานส่วนใหญ่อยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในระดับต่ำ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้พัฒนาระบบการบริหารจัดการและติดตามผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพบริเวณพื้นที่ดำเนินโครงการของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการวางแผนในการดำเนินงานด้านการศึกษาผลกระทบความหลากหลายทางชีวภาพสำหรับโครงการในต่างประเทศด้วย โดยในปี 2565 พบว่าการดำเนินการของบริษัทฯ ไม่ส่งผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่การดำเนินธุรกิจ ซึ่งบริษัทสามารถคงไว้ซึ่งการดำเนินงานด้านการศึกษาผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพได้อย่างต่อเนื่อง

GPSC Biodiversity Assessment Report 2022
GPSC Biodiversity Risk Assessment Report 2022
GRI 304-1
GRI 304-2
GRI 304-3

บริษัทฯ ดำเนินการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมสำหรับโครงการของบริษัทฯ ตามที่กฎหมายกำหนด นอกจากนั้น บริษัทฯ มีการกำหนดมาตรการป้องกันและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามและตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างรอบด้านจากผลการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่า โครงการของบริษัทฯ มีการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมครบทุกโครงการ และไม่มีโครงการที่อยู่ในพื้นที่อนุรักษ์และพื้นที่มรดกโลก

สามารถติดตามมาตรการการป้องกันและลดผลกระทบจากการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและชุมชน ได้ที่ Link

GRI 304-2
GRI 304-3

เนื่องด้วยการดำเนินกิจการด้านอุตสาหกรรมเป็นส่วนหนึ่งที่อาจส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพทั้งพืชและสัตว์ที่อาศัยอยู่ในระบบนิเวศโดยรอบ ทั้งในด้านชนิดพันธุ์ พันธุกรรม และระบบนิเวศ บริษัทฯ จึงตระหนักและให้ความสำคัญถึงความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ดำเนินงาน ที่นอกจากจะมีการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านต่างๆ ที่ครอบคลุมรวมถึงการกำหนดมาตรการป้องกันแล้ว บริษัทฯ ยังดำเนินการกิจกรรมเพื่อรักษาและฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ ทั้งพื้นที่บนบก ชายฝั่งทะเล และแหล่งน้ำจืด โดยร่วมกับภาคีเครือข่ายภายใต้ความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานด้านวิชาการ ภาคสังคม/ชุมชนท้องถิ่น และภาคอุตสาหรรมในพื้นที่ท้องถิ่นและผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการบริหารจัดการที่จะไม่ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อความหลากหลายทางชีวภาพ (No-Net-Loss) ภายใต้ขอบเขตที่บริษัทฯ สามารถจัดการได้ในการอนุรักษ์ฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพให้มีสภาพที่สมบูรณ์คงอยู่ต่อไป ดังนี้

ประเภท
กิจกรรมการ
ฟื้นฟู
ภาคีเครือข่ายและ
ผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง
กิจกรรมที่ดําเนินงาน ผลการดําเนินงาน
ความหลากหลาย ทางชีวภาพบนบก
(Terrestrial biodiversity)
  • กรมป่าไม้
  • ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดระยอง
  • เทศบาลเมืองมาบตาพุด
  • เทศบาลตําบลบ้านฉาง
  • เทศบาลตําบลพลา
  • ป่าชุมชนบ้านเขาภูดรห้วยมะหาด
  • โครงการฟื้นป่ารักษ์น้ำเขาห้วยมะหาด
  • โรงเรียนในเขตอําเภอเมือง และอําเภอบ้านฉาง
  • องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน)
  • ป่าชุมชนบ้านมาบจันทร์
  • ป่าชุมชนบ้านศิริอนุสรณ์
  • มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
  • หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง
การปลูกป่า
  • โครงการปลูกป่า เขาห้วยมะหาด
  • โครงการปลูกป่าชายเลน คลองพลา
  • โครงการปลูกป่าเสริม เขาห้วยมะหาด
  • โครงการปลูกป่าเขาจอมแห
  • โครงการปลูกป่าชุมชนบ้านมาบจันทร์
  • โครงการปลูกป่าชุมชนบ้านศิริอนุสรณ์
โครงการฝายชะลอน้ำ
  • โครงการสร้างฝายชะลอน้ําบ้านภูดร-ห้วยมะหาด และปลูกต้นไม้เสริม
  • โครงการสร้างฝายชะลอน้ำป่าชุมชนบ้านเนินกระปรอกบน
  • โครงการปลูกป่า (ปี 2556 - ปัจจุบัน) รวม 22,170 ต้น พื้นที่ปลูกป่ารวม 104 ไร่ ชนิดพันธุ์ไม้กว่า 77 ชนิด
  • โครงการสร้างฝายชะลอน้ำ (ปี 2558 - ปัจจุบัน) รวม 152 ฝาย
ความหลากหลาย ทางชีวภาพทางทะเล
(Marine biodiversity)
  • กรมทรัพยากรทางทะเลชายฝั่ง
  • กรมประมง
  • กรมเจ้าท่า
  • ทัพเรือภาคที่ 1
  • การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)
  • วิสาหกิจชุมชนชมรมประมงเรือเล็กพื้นบ้าน อำเภอเมือง และอำเภอบ้านฉาง สามัคคี
  • กลุ่มประมงเรือเล็กหนองแฟบ
  • กลุ่มประมงเรือเล็กหาดสุชาดา
  • กลุ่มประมงพื้นบ้านบ้านตากวน
  • กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่มาบตาพุดคอมเพล็กซ์
  • ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก
  • ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลระยอง
  • โครงการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำในพื้นที่ชายฝั่ง ใกล้เคียงพื้นที่การดําเนินงาน
  • โครงการเพาะพันธุ์สัตว์น้ำวัยอ่อนสู่ทะเล
  • โครงการสร้างบ้านให้สัตว์ทะเล (ปะการังเทียม)
  • โครงการจัดวางซั้งกอ กลุ่มประมงเรือเล็กหนองแฟบ และกลุ่มประมงพื้นบ้านบ้านตากวน
  • โครงการกระชังปูกลางทะเล
  • โครงการฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเล
  • โครงการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ (ปี 2558 - ปัจจุบัน) รวม 48,737,826 ตัว
  • โครงการเพาะพันธุ์สัตว์น้ำวัยอ่อนสู่ทะเล (ปี 2552 - ปัจจุบัน) อนุรักษ์ปูม้าโดยการให้แม่พันธุ์ปูม้าฟักไข่นอกกระดอง รวม 8,769 ตัว
  • โครงการสร้างบ้านให้สัตว์ทะเล
  • จัดทําปะการังเทียมแบบลูกเต๋าคอนกรีต จํานวน 100 ก้อน บริเวณชายฝั่งเขต อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง (ปี 2558-2559)
  • ทําซั้งเชือกและซั้งกอ จํานวน 109 ซั้ง (ปี 2555, 2560, 2553)
  • ขยายพันธุ์ปะการังเขากวาง บริเวณเกาะขาม (ปี 2561)
  • กระชังปูกลางทะเล 1 กระชัง ปี 2564
  • สร้างบ้านให้ปูดำจากโครงการเพาะเลี้ยงปูทะเล 1 กระชัง ปี 2565
  • โครงการฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเล พื้นที่ 6 ไร่ หญ้าทะเล 3 ชนิด
  • * ปี 2551-2557 ไม่มีการเก็บข้อมูล แต่มีการปล่อย พันธุ์สัตว์น้ำไม่น้อยกว่าหนึ่งล้านตัวต่อปี
ความหลากหลาย
ทางชีวภาพน้ําจืด
(Fresh water biodiversity)
  • องค์การบริหารส่วนตําบลปลวกแดง
  • ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดระยอง
  • กลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล
  • โครงการปล่อยพันธุ์ปลาอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหลและอ่างเก็บน้ำดอกกราย
  • โครงการปล่อยพันธุ์ปลาอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหลและอ่างเก็บน้ำดอกกราย (ปี 2556 - ปัจจุบัน) รวบ 200,000 ตัว ชนิดพันธุ์สัตว์น้ำจืดที่ปล่อยกว่า 10 ชนิด

ความคืบหน้าเชิงปริมาณเกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพ: 100%

GRI 304-3

บริษัทฯมีพื้นที่ปฏิบัติงานสองแห่ง (GHECO-One และ SPP3) ที่ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม พบว่ามีผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ พื้นที่เหล่านี้ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมมาบตาพุด ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นคือผลกระทบเล็กน้อยต่อไข่และตัวอ่อนของพันธุ์สัตว์น้ำ

ตามคำแนะนำจากการศึกษานิเวศวิทยาในเขตอุตสาหกรรมมาบตาพุดโดยผู้เชี่ยวชาญด้านความหลากหลายทางชีวภาพ (จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) ในปี 2555 บริษัทฯ ต้องปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เช่น ปูม้า และ ตัวอ่อนกุ้ง ซึ่งเป็นพันธุ์ท้องถิ่นใกล้เคียงในพื้นที่มาบตาพุดอย่างน้อย 1-2 ล้านตัว ต่อปี ระหว่างปี 2558-2560 บริษัทฯ ได้ดำเนินโครงการฟื้นฟูสัตว์น้ำโดยปล่อยไข่และตัวอ่อนของสัตว์น้ำในท้องถิ่นประมาณ 10 ล้านตัว เช่น ปูม้าและตัวอ่อนกุ้ง บริเวณพื้นที่ปฏิบัติการ GHECO-one และ SPP3 นอกจากนี้ เพื่อเป็นการปกป้องและฟื้นฟูแหล่งที่อยู่อาศัยทางทะเล บริษัทฯได้เสร็จสิ้นการสร้างแนวปะการังเทียมจากทางมะพร้าวจำนวน 50 แห่ง

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญในการดำเนินการด้านความหลากหลายทางชีวภาพทั้ง ทางบกและทางทะเลในปี 2564 ซึ่งเป็นการดำเนินงานที่สำคัญในจังหวัดระยอง มีผลสรุปดังนี้

ผลการศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเล

  • การปนเปื้อนของโลหะหนักในตะกอนและเนื้อเยื่อของสัตว์น้ำ
    • สำหรับระดับการปนเปื้อนตะกอนอยู่ภายใต้มาตรฐานที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้ปริมาณโลหะหนักในเนื้อเยื่อสัตว์น้ำถูกพบในปริมาณที่ต่ำมาก ซึ่งอยู่ภายใต้มาตรฐานทางกฎหมายทั้งหมด
  • ความอุดมสมบูรณ์และความหนาแน่นของสายพันธุ์ต่างๆ
    • สำหรับแพลงก์ตอนพืช แพลงก์ตอนสัตว์ และสัตว์ทะเล ความอุดมสมบูรณ์และความหนาแน่นของสายพันธุ์อยู่ในระดับเกือบเท่ากันกับการวัดครั้งล่าสุดแสดงให้เห็นว่าคุณภาพน้ำอยู่ในระดับปกติ นอกจากนี้ยังมีสัตว์ทะเลสามสายพันธุ์ที่โดดเด่นในพื้นที่และเป็นสายพันธุ์ทั่วไปที่พบในระบบนิเวศทางทะเล
    • สำหรับไข่และตัวอ่อน แนวโน้มความอุดมสมบูรณ์และความหนาแน่นของสายพันธุ์ในแต่ละจุดมีความคล้ายคลึงกัน

สามสปีชีส์ที่โดดเด่นมีดังนี้: (A ) Nemipterusfurcosus, (B) Eubleekeria splendens และ (C) Lutjanus lutjanus

(A) Nemipterus furcosus (Forktailed threadfin bream or ทรายแดง)

(B) Eubleekeria splendens (Striped ponyfish or แป้นเมือก)

(C) Lutjanus lutjanus (Bigeye snapper or กะพงข้างเหลือง)

ผลการศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพบนบก

  • การสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพของพืช
    • สายพันธุ์พืชทั้งหมดที่พบในสถานที่สำรวจเป็นสายพันธุ์พืชทั่วไปในป่าเบญจพรรณ และป่าแดง นอกจากนี้ผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่าไม่มีสายพันธุ์ที่ใกล้สูญพันธุ์ในพื้นที่


ตัวอย่างพันธุ์พืชในพื้นที่สำรวจ

  • การสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์ป่า
    • สายพันธุ์สัตว์ป่าที่พบในสถานที่สำรวจทั้งหมดเป็นสายพันธุ์ที่พบได้ในป่าอนุรักษ์ทั่วไป นอกจากนี้ยังมีความสัมพันธ์กับระบบนิเวศของแต่ละพื้นที่ ตัวอย่างเช่นในพื้นที่ป่าชุมชนมาบจันทร์ สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกเป็นอาหารของนกและงู ในพื้นที่ที่พบนกและค้างคาวกินผลไม้สามารถช่วยส่งเสริมการกระจายของพืชได้ ดังนั้นสายพันธุ์ของสัตว์ป่าที่สำรวจจึงสามารถพบเห็นได้อย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่าไม่มีสายพันธุ์ที่ใกล้สูญพันธุ์ซึ่งอยู่ในบัญชีแดงของ IUCN, แหล่งมรดกโลก, อนุสัญญาแรมซาร์, โครงการมนุษย์และชีวมณฑลของ UNESCO และกฎหมายและกฎระเบียบแห่งชาติในพื้นที่ที่อยู่ห่างจากสถานที่ปฏิบัติการของ GPSC ในระยะ 5 กม.

ตัวอย่างพันธุ์สัตว์ป่าในพื้นที่สำรวจ

  • การพัฒนาระบบฐานข้อมูลทางภูมิศาสตร์ (Geo-database)
    • ฐานข้อมูลทางภูมิศาสตร์ได้รับการพัฒนาในรูปแบบของระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ (GIS) โดยการบูรณาการข้อมูลเชิงพื้นที่และคุณลักษณะที่รวบรวมจากแต่ละสถานที่ เอกสารที่เกี่ยวข้องจาก GPSC หน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง และภาพถ่ายดาวเทียม
    • การใช้ภาพถ่ายดาวเทียมที่มีข้อมูลการสะท้อนคลื่นในรูปแบบต่างๆมีข้อจำกัดเนื่องจากแผนผังการศึกษามีขนาดเล็กกว่าความละเอียดของภาพถ่ายดาวเทียม ซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์ไม่ถูกต้อง แต่การเปลี่ยนแปลงยังคงสังเกตได้จากสี ที่แตกต่างกันในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน
    • ผลลัพธ์จะถูกนำมาใช้สำหรับการตรวจสอบด้านกายภาพและชีวภาพรวมถึงทรัพยากรทางธรณีวิทยา อุณหภูมิปริมาณน้ำฝน ทรัพยากรพืช และสัตว์ป่า

ตัวอย่างฐานข้อมูลภูมิศาสตร์ในรูปแบบของ GIS

พันธมิตรผู้เชี่ยวชาญที่สำคัญของเรา:

  • กรมป่าไม้
    • หน่วยงานมีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบป่าไม้ ประสานงานการวิจัย ส่งเสริมให้มีการจัดการป่าชุมชน อนุรักษ์ที่ดินป่าไม้ และตรวจสอบอุตสาหกรรมไม้
  • Environmental Consultant (SECOT)
    • SECOT เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อมที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษในสาขาวิชาการต่อไปนี้:
      • การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง
      • การวิเคราะห์คุณภาพของสัตว์ทะเลหน้าดินและตะกอน
      • สมุทรศาสตร์และสิ่งแวดล้อม (Oceanography and Environment)
    • ก่อนหน้านี้ SECOT ได้ทำโครงการด้านความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลที่สำคัญหลายโครงการ เช่น:
      • ผลกระทบจากการขนส่งแป้งมันสำปะหลังและสินค้าอื่นๆที่กระจายจากเรือสินค้า บริเวณอ่าวศรีราชาและเกาะสีชัง
      • การจัดการทรัพยากรสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเพื่อเพิ่มมูลค่าการผลิต
      • อนุกรมวิธานของหอยนางรมในประเทศไทย
      • ความหลากหลายทางชีวภาพของผู้ผลิตปฐมภูมิในระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง
      • การศึกษาทรัพยากรชีวภาพ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่มีผลกระทบต่อทรัพยากรในพื้นที่อ่าวไทยตอนบน
      • การสำรวจสภาพแวดล้อมทางทะเล บริเวณอ่าวไทยตอนบน
  • คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นสถานศึกษาแห่งเดียวในประเทศไทยที่ให้ความรู้ด้านป่าไม้เพื่อส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับป่าไม้เขตร้อนผ่านการวิจัยและการศึกษาขั้นสูง นอกจากนี้ทางคณะยังมีการฝึกอบรม ให้แหล่งข้อมูลและบริการวิชาการแก่ชุมชนในพื้นที่ในด้านการจัดการป่าไม้ ชีววิทยาป่าไม้ วิศวกรรมป่าไม้ วนวัฒนวิทยา ผลผลิตและการอนุรักษ์ป่าไม้
  • Chula Unisearch, Chulalongkorn University เป็นหน่วยงานของมหาวิทยาลัยที่เป็นอิสระแห่งแรกของประเทศไทยที่จัดตั้งขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการวิจัยและพัฒนาขององค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนโดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการระดับสูงในสาขาต่างๆรวมถึงความหลากหลายทางชีวภาพ

แผนการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพ:

GRI 304-3

จากผลการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัทฯ เรามีสถานที่ดำเนินงานเพียงสองแห่งที่อาจมีผลกระทบเล็กน้อยต่อความหลากหลายทางชีวภาพในสถานที่ดำเนินงานใกล้เคียงคือโครงการ GHECO-One และ SPP3 บริษัทฯ ได้พัฒนาแผนการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพเพื่อหลีกเลี่ยง (Avoid) ที่จะก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรง การลดผลกระทบ (Minimize) โดยปรับปรุงการดําเนินการให้ดีขึ้น ฟื้นฟู (Restore) และเฝ้าระวังรักษาระบบนิเวศที่ได้รับผลกระทบ และการชดเชย (Offset) ความสูญเสียที่เกิดขึ้นตามผลการศึกษา EIA และหลักการการบรรเทาผลกระทบตามลำดับขั้นนอกจากนี้ บริษัทฯ ยังตระหนักอย่างจริงจังถึงความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพของระบบนิเวศ ซึ่งถือเป็น แรงผลักดันให้บริษัทฯ จัดทำแผนการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพสำหรับสถานที่ปฏิบัติงานทั้งหมดในกรณีที่เกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด

บริษัทฯ ได้ศึกษาและจัดทำแผนการดำเนินงานในด้านทรัพยากรชีวภาพทางทะเลเพื่อดำเนินโครงการอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยประสานงานกับชุมชนและหน่วยงานวิชาการที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนพันธุ์สัตว์น้ำในการปล่อยปลาประจำปี เช่น โครงการธนาคารปูม้า โครงการธนาคารไข่หมึก โครงการเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ และโครงการปะการังเทียม มีการประเมินความยั่งยืนของแผนการดำเนินการทั้งหมดเพื่อแนะนำการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับชนิดของสัตว์น้ำที่จะถูกปล่อยลงทะเลเพื่อเพิ่มอัตราการอยู่รอดของสัตว์ที่ถูกปล่อยออกมาตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญภายนอก บริษัทฯ มีแผนการที่จะศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างชนิดของสัตว์ที่ถูกปล่อยและสถานที่ปล่อยเพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นอาหารของสัตว์นักล่าท้องถิ่น นอกจากนี้บริษัทจะดำเนินการสำรวจให้กับชาวประมงในชุมชนเพื่อกำหนดปริมาณและสายพันธุ์ของสัตว์น้ำที่จับได้เป็นพื้นฐานสำหรับการเปรียบเทียบแนวโน้มทรัพยากรธรรมชาติเป็นระยะๆ

ข้อตกลงไม่ตัดไม้ทำลายป่าสุทธิ

บริษัทฯ ทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรภายนอก เช่น กรมป่าไม้ เพื่อปกป้อง ฟื้นฟูพื้นที่ป่า และปฏิบัติตามกฎระเบียบของเขตอนุรักษ์ของไทยและสากล รวมไปถึงกฎระเบียบเกี่ยวกับพันธุ์พืชอนุรักษ์ บริษัทฯ ให้คำมั่นในการ 'ไม่ทำลายป่าสุทธิ' การปลูกป่าในอนาคตเพื่อชดเชยการสูญเสียป่าในปัจจุบันหรือการขยายพื้นที่ป่าเมื่อเป็นไปได้และจะไม่มีการแสวงหาผลประโยชน์จากผู้คนและชุมชนท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ใกล้กับพื้นที่ภายในปี 2568 มีการทำกิจกรรมต่างๆเพื่อสร้างประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะทำให้การปฏิบัติตามกฎระเบียบของป่าไม้และมาตรฐานที่บังคับใช้ทั่วทั้งกลุ่ม ตรวจสอบและผลักดันประสิทธิภาพการปลูกต้นไม้ผ่านระบบการตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่ามีการปฏิบัติตามความมุ่งมั่นทั่วทั้งกลุ่ม เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย "ปราศจากผลกระทบต่อพื้นที่ป่าไม้สุทธิ" ภายในปี 2025 บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะสร้างความร่วมมือและการมีส่วนร่วมกับคู่ค้าและพันธมิตรทั้งหมดโดยตระหนักว่าบริษัทฯ ไม่สามารถทำได้เพียงลำพังแต่ต้องมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด ดังนั้นบริษัทฯ จึงทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญภายนอกเช่นกรมป่าไม้และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เพื่อปกป้องฟื้นฟูพื้นที่ป่าและปฏิบัติตามกฎระเบียบระหว่างประเทศและพื้นที่อนุรักษ์แห่งชาติของประเทศไทยและการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า นอกจากนี้บริษัทฯ ยังร่วมมือกับพันธมิตรภายนอกอื่นๆได้แก่กลุ่มปตท., คู่ค้า, พันธมิตร, หน่วยงานภาครัฐและบุคคลภายนอกเพื่อจัดการ ลดความเสี่ยงจากการตัดไม้ทำลายป่า รักษาและตรวจสอบพื้นที่ป่าไม้เพื่อสร้างคุณค่าในเชิงบวกร่วมกัน

ความคืบหน้าเชิงปริมาณของการไม่ตัดไม้ทำลายป่าสุทธิ: 100%

ในปัจจุบัน การดำเนินงานของบริษัทฯไม่ใช่การสูญเสียป่าไม้ในปัจจุบันจากการประเมินความหลากหลายทางชีวภาพและป่าไม้ โดยบริษัทฯจะคอยติดตามกิจกรรมการตัดไม้ทำลายป่าอย่างใกล้ชิดเพื่อดำเนินการในอนาคต และดำเนินการปลูกป่าเพื่อชดเชยผ่านโครงการปลูกป่าอย่างต่อเนื่อง

ในปี 2564 กลุ่มบริษัท GPSC ได้ดำเนินโครงการปลูกป่าโดยการปลูกป่ากว่า 60 สายพันธุ์ โดยสรุปความคืบหน้าได้ดังนี้

นอกจากนี้ กลุ่มบริษัท GPSC ยังดำเนินโครงการปลูกหญ้าทะเลบริเวณหาดนภาธาราภิรมย์ (หาด EOD) จังหวัดระยอง จำนวน 4,000 ต้น ในปี 2564

Year No. of tree planted
Previous Projects: 2013 – 2020 18,450
Current: 2021 2,200
Total 20,650

ระบบการปฏิบัติตามกฎระเบียบและการตรวจสอบ:

GRI 304-3

บริษัทฯ ได้ศึกษาและติดตามความหลากหลายทางชีวภาพบนบก (พืชและสัตว์ป่า) รวมทั้งจัดทำฐานข้อมูลภูมิศาสตร์ในพื้นที่ดำเนินงานที่สำคัญ (จังหวัดระยอง) โดยร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านความหลากหลายทางชีวภาพเพื่อประเมินความอุดมสมบูรณ์และความหนาแน่นของสายพันธุ์รวมถึงพืชและสัตว์ป่าจากการดำเนินโครงการ สำหรับการปฏิบัติตามกฎระเบียบทั้งกลุ่ม ระบบการตรวจสอบประเภทที่เลือกจะมีการดำเนินการอย่างสม่ำเสมอในข้อมูลพื้นฐานและรายละเอียดประจำปีดังต่อไปนี้

การสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพของพืช/ป่าไม้

  • การสำรวจนี้รวมถึงพืชประเภทต่างๆ (ต้นไม้ หน่อต้นไม้ และต้นกล้า) กลุ่ม GPSC เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการแยกแปลงตัวอย่างขนาด 10 * 10 เมตรออกเป็น 10 แปลงจากนั้นวิเคราะห์ด้วยตัวแปร 10 ตัวที่ประกอบด้วยความหนาแน่น, ความถี่, ความโดดเด่น, ความถี่สัมพัทธ์, ความหนาแน่นสัมพัทธ์, ความโดดเด่นสัมพัทธ์, ดัชนีค่าความสำคัญ, ดัชนีความหลากหลายของพืช/สปีชีส์, ดัชนีความสม่ำเสมอและดัชนีความคล้ายคลึง (ตามสมการของ Shannon-Wiener ในการอ้างอิงของ Ludwig and Reynold, 1998)

การสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์ป่า

  • การสำรวจประกอบด้วยสัตว์ประเภทต่างๆ (สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกและสัตว์ปีก) บริษัทฯ รวบรวมข้อมูลโดยวิธีการที่ไม่เป็นอันตรายและเหมาะสมสำหรับสัตว์ประเภทต่างๆแล้วจัดหมวดหมู่ตามกฎหมายข้อบังคับและข้อตกลง ในท้องถิ่นและระหว่างประเทศที่แตกต่างกัน เช่น พระราชบัญญัติการอนุรักษ์และคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งประเทศไทย (1992), สถานะทรัพยากรชีวภาพของประเทศไทย, IUSN (2010) และอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์

การจัดทำฐานข้อมูลทางภูมิศาสตร์ (Geo-database)

  • บริษัทฯ ได้ทำการประเมินนิเวศวิทยาทางทะเลกับผู้เชี่ยวชาญสำหรับการวัดความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลด้วยตัวชี้วัดที่รวมไปถึงความอุดมสมบูรณ์/ความหนาแน่นของสปีชีส์ของแพลงก์ตอนพืช แพลงก์ตอนสัตว์ สัตว์ทะเลหน้าดิน ไข่ ตัวอ่อนและสัตว์ทะเล นอกจากนี้, การปนเปื้อนของโลหะหนักในตะกอนและเนื้อเยื่อสัตว์น้ำ ถูกวัดเพื่อติดตามประสิทธิภาพของระบบการจัดการมลพิษของ GPSC

การสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเล

  • GPSC ได้ทำการประเมินนิเวศวิทยาทางทะเลกับผู้เชี่ยวชาญสำหรับการวัดความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลด้วยตัวชี้วัดที่รวมไปถึงความอุดมสมบูรณ์/ความหนาแน่นของสปีชีส์ของแพลงก์ตอนพืช แพลงก์ตอนสัตว์ สัตว์ทะเลหน้าดิน ไข่ ตัวอ่อนและสัตว์ทะเล นอกจากนี้, การปนเปื้อนของโลหะหนักในตะกอนและเนื้อเยื่อสัตว์น้ำ ถูกวัดเพื่อติดตามประสิทธิภาพของระบบการจัดการมลพิษของ GPSC

การมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (รวมถึงคู่ค้าและพันธมิตร) เพื่อจัดการและลดความเสี่ยงจากการตัดไม้ทำลายป่า

GRI 304-3

บริษัทฯ ดำเนินโครงการฟื้นฟูป่าร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอกรวมถึงคู่ค้า เหล่านี้รวมไปถึงคู่ค้าของเรา โครงการมีดังต่อไปนี้:

โครงการฟื้นป่ารักษ์น้ำเขาห้วยมะหาด ร่วมปลูกป่า จ.ระยอง

สร้างสมดุลระบบนิเวศมุ่งดูดซับคาร์บอนกลไกสู่ Net Zero

GPSC ได้ ร่วมกับเทศบาลเมืองมาบตาพุด และภาคีเครือข่ายโครงการฟื้นป่ารักษ์น้ำเขาห้วยมะหาด อ.เมือง จ.ระยอง ดำเนิน “โครงการปลูกป่าเขาห้วยมะหาดและบำรุงรักษา ปีที่ 9” ในพื้นที่ ต.ห้วยโป่ง อ.เมือง จ.ระยอง โดยร่วมกับเครือข่ายในจังหวัด อาทิ หน่วยงานท้องถิ่น ชุมชน คู่ค้า และพนักงานจิตอาสาของบริษัทฯ กว่า 100 คน เพื่อร่วมฟื้นฟูป่าต้นน้ำและเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพของพันธุ์พืช พร้อมสร้างความสมดุลแก่ระบบนิเวศใกล้แหล่งชุมชนและแหล่งอุตสาหกรรม ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการอยู่ร่วมกัน ควบคู่ไปกับการพัฒนาจังหวัดระยองสู่การเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ โดยโครงการดังกล่าวเป็นการเพิ่มศักยภาพของพื้นที่ป่าในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซต์ ที่จะเป็นกลไกสำคัญของการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัทฯ ให้บรรลุสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ในปี 2060

สำหรับแผนการดำเนินโครงการฯ เน้นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในรูปแบบการปลูกเสริมพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมแปลงที่ 3 จำนวน 7 ไร่ โดยการนำพันธุ์ไม้จำนวน 15 ชนิด เพื่อเพิ่มความหลากหลายของพันธุ์พืช ได้แก่ พันธุ์ไม้ป่าจำนวน 13 ชนิด มีคุณสมบัติในการดูดซับคาร์บอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ไม้พื้นเมืองโตช้าจำนวน 900 ต้น และยังมีการปลูกพืชพันธุ์ไม้พื้นล่างประเภทสมุนไพร 2 ชนิดจำนวน 100 ต้น ซึ่งสามารถประเมินปริมาณการกักเก็บคาร์บอนสะสมรวมแปลงที่ 1 และแปลงที่ 2 ที่ได้ปลูกก่อนหน้านี้ รวมกับแปลงที่ 3 ดังกล่าวจนถึงปัจจุบัน ได้ทั้งสิ้นประมาณ 524 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า โครงการนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศแต่ยังช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนรอบพื้นที่ป่า ด้วยการปลูกพืชสมุนไพรที่นำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับชุมชนได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

โครงการสร้างฝายชะลอน้ำ ปีที่ 8 เพิ่มพื้นที่สีเขียวป่าชุมชนเขาภูดรห้วยมะหาด จ.ระยอง

GPSC ร่วมสร้างฝายชะลอน้ำต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศในพื้นที่ป่าชุมชนเขาภูดร – ห้วยมะหาดร่วมกับเทศบาลตำบลบ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง จัดกิจกรรม “โครงการสร้างฝายชะลอน้ำ” ที่ดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำและฟื้นฟูระบบนิเวศของป่าชุมชนให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ ทั้งนี้โครงการดังกล่าวเกิดจากความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน ที่สร้างฝายชะลอน้ำตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบันมีจำนวน 152 ฝาย โดยมีหน่วยงานภาครัฐท้องถิ่น พนักงานจิตอาสา และชาวบ้านในชุมชนเข้าร่วมกิจกรรม บริเวณป่าชุมชนเขาภูดรห้วยมะหาด จ.ระยอง

“โครงการฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเล”

กลุ่มบริษัท GPSC, ทัพเรือภาคที่ 1 และศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก (ศวทอ.) ร่วมกันศึกษาวิจัยพื้นที่ที่หมาะสมในการปลูกและขยายพันธุ์หญ้าทะเล ซึ่งเชื่อว่าจะมีส่วนช่วยในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ และฟื้นฟูระบบนิเวศและทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลให้อุดมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยเริ่มทดลองปลูกใน 2 พื้นที่ได้แก่ 1) หาดนภาธาราภิรมย์ กิจการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ กองการบินทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จำนวน 5,000 กอ บนพื้นที่ 3 ไร่ และ 2) เกาะขาม ทัพเรือภาคที่ 1 อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จำนวน 5,000 กอ บนพื้นที่ 3 ไร่ โดยคาดว่าจะช่วยลดปริมาณการลดก๊าซเรือนกระจกได้ 66 tonsCO2eq/ปี ตามระเบียบวิธีการคำนวณขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะทำการสำรวจและเก็บข้อมูลด้านวิชาการ ทั้งด้านการกักเก็บคาร์บอนในระบบนิเวศหญ้าทะเล และด้านความหลากหลายทางชีวภาพ อย่างต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์ต่องานวิจัยในอนาคต


ปรับปรุง ณ เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2566

เนื้อหาข้างต้นจัดทำตามมาตรฐานการรายงานความยั่งยืน โดย The Global Reporting Initiative (GRI Standards) ได้รับการตรวจสอบความถูกต้องโดยหน่วยงานภายนอกและให้ความเชื่อมั่นข้อมูลการรายงานในระดับจำกัด (Limited Assurance)